’สถาบันการสร้างชาติ‘จัดประชุมใหญ่นานาชาติฯ‘สันติภาพบนพื้นฐานคุณธรรม การพัฒนาและการสร้างชาติ2025 ’ ด้านพล.อ.นิพัทธ์’ยัน กลาโหมดูแลความมั่นคงของชาติ ขณะที่‘เกรียงศักดิ์’เสนอแนวคิดทำสัญญาสันติสภาพ ต้องส่งต่อข้ามรุ่นสู่รุ่น

27 มิถุนายน 2568 การประชุมใหญ่นานาชาติว่าด้วยการสร้างชาติ สุขสภาพ และสันติสภาพบนฐานคุณธรรม ประจำปี 2568 (The International Convention on Nation-Building, Wellness & Peace Upon Morality 2025 – ICNWP 2025) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25–27 มิถุนายน 2568 โดยมีสถาบันการสร้างชาตินานาชาติ (NBII) เป็นเจ้าภาพร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรไทยและนานาชาติ อาทิ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (Institute of Future Studies for Development (IFD) สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย สถาบันการสร้างชาติ ประเทศมาเลเซีย (Nation-Building Institute Malaysia)และAsia Future Institute (ประเทศเกาหลีใต้)
 
การประชุมวันสุดท้าย เป็นการประชุมนานาชาติว่าด้วยสันติภาพบนฐานคุณธรรม การพัฒนาและการสร้างชาติ ประจำปี 2568(ICPDN) “สันติภาพในโลกที่เต็มด้วยผู้สูงวัย”ได้รับเกียรติจาก โดยพลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม  ผู้แทนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ ดร. โภคิน พลกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยาเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกล่าวปาฐกถา

พลเอกนิพัทธ์ กล่าวปาฐกถา หัวข้อ “สันติภาพบนพื้นฐานคุณธรรมในโลกแห่งวัยสูงอายุ” ว่า สันติภาพจำเป็นต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สังคมทั่วโลกต่างเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น ตั้งแต่ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางสังคม ไปจนถึงความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ความท้าทายเหล่านี้ล้วนเรียกร้องให้เกิดความพยายามในการสร้างสันติภาพอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม และลึกซึ้ง  ในวันนี้สันติภาพ ไม่ใช่แค่การไม่มีความขัดแย้ง หากแต่หมายถึงระดับของความเข้าใจ การป้องกันความรุนแรง และการรับประกันความปลอดภัยและศักดิ์ศรีของมนุษย์ โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยที่เปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ สังคมที่มีสันติภาพอย่างแท้จริง คือต้องเป็นสังคมที่ทุกช่วงวัยรู้สึกถึงความมั่นคง ได้รับการยอมรับ และมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม  กระทรวงกลาโหมตระหนักถึงบทบาทสำคัญของตนในการมีส่วนร่วมสร้างสังคมที่สันติและครอบคลุม ความมุ่งมั่นต่อสันติภาพฝังอยู่ทั้งในภารกิจภายนอกและภารกิจภายในของเราอย่างลึกซึ้ง 

กระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินโครงการสำคัญหลายประการ เช่น เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับประชาชนผ่านกิจกรรมเพื่อชุมชน และการร่วมมือกับหน่วยงานพลเรือน ในการดูแลความปลอดภัยและการช่วยเหลือภัยพิบัติ,จัดสวัสดิการที่รอบด้านสำหรับทหารเกษียณอายุ เพื่อให้ผู้ที่เคยอุทิศตนเพื่อชาติได้รับเกียรติและความเคารพอย่างสมศักดิ์ศรี ควบคู่กับพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมกำลังพลด้านการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อให้กองทัพเป็นทั้งผู้พิทักษ์ความมั่นคง และผู้ส่งเสริมเสถียรภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลก,สนับสนุนวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันระหว่างรุ่นในหน่วยงานทหาร โดยส่งเสริมคุณค่าความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างทหารรุ่นใหม่กับผู้บังคับบัญชารุ่นพี่

“เรามีความเชื่อมั่นว่า บทบาทในการดูแลความมั่นคงของชาติจะต้องควบคู่ไปกับการส่งเสริมความมั่นคงทางสังคม ความเข้มแข็งของชุมชน และความไว้วางใจของประชาชน เพราะทั้งหมดนี้คือรากฐานสำคัญของสันติภาพที่ยั่งยืน”พลเอกนิพัทธ์ กล่าว

ศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาตินานาชาติ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ “Peace upon Morality in the Ageing World”ด้วยวิสัยทัศน์ที่ทรงพลังว่า “สันติสภาพคือสิ่งที่เราต้องส่งต่อข้ามรุ่น...การวัดความก้าวหน้าที่แท้จริงอาจไม่ใช่แค่อายุที่ยืนยาว แต่คือเราจะอยู่ร่วมกันข้ามรุ่นได้ดีเพียงใด”
 
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ได้วิเคราะห์ถึงโลกสูงวัย กระทบสันติภาพในทุกมิติ ว่า การเข้าสู่สังคมสูงวัย ไม่เพียงมีผลต่อระบบสุขภาพหรือเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ สันติภาพในทุกมิติของชีวิต ทั้งสันติภาพในระบอบปัจเจก สันติภาพในระบอบธรรมชาติ สันติภาพในระบอบธรรมะ และสันติภาพในระบอบชุมชน โดยเฉพาะในระบอบชุมชนที่ความแตกต่างหรือช่องว่างระหว่างวัยอาจกลายเป็นแหล่งของความขัดแย้ง หากไม่มีระบบนโยบายที่เชื่อมโยงและสร้างความเข้าใจระหว่างกัน 

ประธานสถาบันการสร้างชาติ ได้เสนอ ความคิดใหม่ โดยใช้คำว่า “The Aeneas Contract” สัญญาแบบใหม่เพื่อสันติสภาพระหว่างรุ่น ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่ต้องการเชื่อมโยงความรับผิดชอบจากรุ่นสู่รุ่น เปรียบเหมือนตำนานของ Aeneas ฮีโร่ชาวทรอยที่แบกพ่อไว้บนหลัง และจูงมือลูกข้ามทะเลเพื่อสร้างอารยธรรมใหม่ โดยสาระสำคัญของสัญญาระหว่างรุ่นดังกล่าวนี้ ได้แก่ 
...การยอมละเสรีภาพส่วนตัวบางส่วนเพื่อดูแลผู้มาก่อน(คนรุ่นก่อน) และเตรียมอนาคตให้คนรุ่นหลัง  ทั้งการออกแบบนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างรุ่น,การฝึกอบรมผู้สูงอายุให้เป็น “Centenarian Peace-Builders” – อาสาสมัครสันติภาพประจำชุมชน ,การปลูกฝัง “Longevity Literacy” ตั้งแต่ในระบบการศึกษา เพื่อให้เด็กเติบโตมาเข้าใจโลกสูงวัย,การออกแบบระบบประเมินผลกระทบนโยบายแบบใหม่: Generational Impact Assessment (GIA)และการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีบทบาทในระบบงาน สื่อ และสังคมต่อไป
 
ดร.เกรียงศักดิ์ ย้ำว่า สันติภาพในระดับโลกจะไม่เกิดขึ้น หากไม่มีสันติภาพระหว่างรุ่นในบ้าน ในเมือง และในชาติของเราเอง “เราจะปฏิบัติต่อประเทศอื่นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราเคยปฏิบัติต่อคนรุ่นอื่นในประเทศตัวเองอย่างไร” และเมื่อโลกกำลังสูงวัยร่วมกัน การส่งต่อคุณค่าระหว่างรุ่นไม่ใช่ทางเลือก — แต่คือเงื่อนไขของความอยู่รอดร่วมกันในระยะยาว   การประชุม ICPDN 2025 ปิดฉากลงด้วยเสียงสะท้อนที่ค้างอยู่ในใจผู้ฟังจากหลากหลายประเทศว่า มรดกแห่งสันติภาพที่แท้จริง คือการปฏิบัติต่อกัน… ข้ามรุ่น ข้ามเวลาและจากวันนี้… 

“สันติภาพอาจไม่ได้เริ่มต้นที่สนธิสัญญา แต่เริ่มจาก สัญญาที่เรามีต่อกันในสังคมของเราเอง และเป็นสัญญาที่ทุกคนในสังคมจะร่วมกันรักษาไว้ให้มั่น”ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

///