‘แกงส้ม’ก็ซอฟต์พาวเวอร์ได้! ‘อภัยภูเบศร’ชูสมุนไพร-อาหารไทย สร้างสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจ ในมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22

30 มิถุนายน 2568 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22” และการประชุมวิชาการแพทย์แผนไทย พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ภายใต้แนวคิด “ภูมิปัญญาไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” พร้อมยกขบวนองค์ความรู้สมุนไพรและวัฒนธรรมอาหารไทย บุกอิมแพคเมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคมนี้

แพทย์หญิงชนิดา สยุมภูรุจินันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดเผยว่า ปีนี้โรงพยาบาลนำเสนอแนวคิด “อาหารคือยา” ผ่านกิจกรรมชวนรู้ “ชะลอวัยไปกับสมุนไพรในอาหาร” เนื่องจากเล็งเห็นถึงจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ผู้สูงวัยก็เพิ่มขึ้น จึงคิดว่าการป้องกันโรคด้วยสิ่งใกล้ตัวเป็นสิ่งจำเป็น ปีนี้จึงได้จัดทำหนังสือ แกงส้ม เป็นภาพสะท้อนขององค์รวมในการดูแลสุขภาพ ที่มีทั้งผัก ผลไม้ เครื่องเทศ เนื้อสัตว์  ที่ประชาชนในพื้นที่สามารถเลือกปรุงแต่งให้สุขภาพดี ด้วยผักผลไม้ตามฤดูกาล  ความเปรี้ยวในแกงส้มช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุแคลเซียม เหล็ก สังกะสี  โดยไม่ต้องกินวิตามินและเกลือแร่เสริม ในภาคใต้ยังมีการใส่ขมิ้นชัน ที่ปัจจุบันมีงานวิจัยอย่างกว้างขวาง ในฤทธิ์ลดการอักเสบ เสริมศักยภาพการทำงานของลำไส้ ปอดและหลอดเลือด ซึ่งความฉลาดของคนใต้คือ การเลือกปลาที่มีไขมันสูง หรือหมูสามชั้นมาเป็นส่วนผสม ซึ่งความมันนี้มีส่วนช่วยดูดซึมขมิ้นชันได้ดีขึ้น  ที่น่าสนใจคือ การวิจัยในปัจจุบัน การรับประทานขมิ้นชัน 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ช่วยเสริมสุขภาพปอดและสมองของผู้สูงอายุ  ซึ่งจะเห็นได้ว่า อาหารไทยนั้นมีประโยชน์ในแง่การดูแลสุขภาพองค์รวม

นอกจากนี้อภัยภูเบศร ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้รักสุขภาพ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย โดยเลือกวัตถุดิบที่มีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ที่ผ่านการควบคุมคุณภาพสารสำคัญเพื่อให้บริโภคได้รับสารพฤกษเคมี ที่สม่ำเสมอ และทำการผลิตและควบคุมคุณภาพ การละลายและการดูดซึมของสารสำคัญ  เพื่อให้ได้ผลในการป้องกันโรคอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น อัญชัน ที่เราเห็นกันอยู่นั้น มีสารในกลุ่ม anthocyanins ที่สูงอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีราคาสูง แต่ที่น่าสนใจคือ สารในอัญชันมีความคงสภาพมากกว่า

“ดังนั้นวันนี้ใครที่สนใจสุขภาพ หลอดเลือด ตา ผม ต้องหันมาใช้อัญชันได้แล้ว มีการวิจัยที่รวบรวมงานวิจัยในคนอย่างเป็นระบบ พบว่าการบริโภคอาหารที่มีสารกลุ่มนี้มีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด ไขมัน และการไหลเวียนเลือด  และการวิจัยเชิงระบาดวิทยาสมัยใหม่ พบว่าการกินเครื่องเทศ สมุนไพรในปริมาณไม่มาก พร้อมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะช่วยป้องกันโรคในระยะยาวแบบปลอดภัย ซึ่งอภัยภูเบศร เราพัฒนาผลิตภัณฑ์จากแนวทางนี้เช่นกัน” แพทย์หญิงชนิดา กล่าว

พญ.ชนิดา กล่าวต่อว่า ภายในงานยังมีกิจกรรมไฮไลต์ อีกมากมายฌดยเฉพาะ การแจกฟรีหนังสือ “บันทึกของแผ่นดิน 15: แกงส้มทั่วทิศถิ่นไทย ใส่ใจสุขภาพ” วันละ 200 เล่ม ซึ่ง ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ทุ่มเทเวลากว่า 3 ปี ลงพื้นที่ สัมภาษณ์ และถอดรหัสภูมิปัญญาที่ซ่อนอยู่ใน “แกงส้ม” ให้กลายเป็นคู่มือสุขภาพจากครัวไทยที่น่าทึ่ง เช่นเคย ภายในงานยังมีการแจกพันธุ์สมุนไพรพื้นบ้านฟรี วันละ 300 ต้น ได้แก่

- วันที่ 2 ก.ค. : ส้มเขาคัน – ต้านอนุมูลอิสระ ต้านอักเสบ

- วันที่ 3 ก.ค. : อ้อดิบ – ทำความสะอาดลำไส้ ช่วยระบาย

- วันที่ 4 ก.ค. : แคแดง – แก้ไข้หัวลม เสริมภูมิคุ้มกัน

- วันที่ 5 ก.ค. : ผักหนาม – บำรุงสุขภาพทั้งชายหญิง

- วันที่ 6 ก.ค. : ดาหลาแดง – บำรุงธาตุ ช่วยย่อย

นอกจากนี้ยังมีบริการตรวจและให้คำปรึกษาสุขภาพฟรีกับแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมตำรับยาสูตรเฉพาะจากร้านยาไทยโพธิ์เงิน และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มเครื่องสำอางดูแลผิว “อภัย โพลูชีลด์“ (Pollushield) ด้วยการผสานสารสกัดสมุนไพรรางจืดและฟ้าทะลายโจรที่โดเด่นด้านการต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมด้วยนวัตกรรม Pollustop ด้วยกลไกหลัก 4 ด้าน คือ การสร้างเกราะป้องกันผิว การต้านอนุมูลอิสระ การต้านการอักเสบยับยั้งแบคทีเรีย และการฟื้นฟูปราการผิวชั้นนอก เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย

ผู้สนใจสามารถร่วมงานได้ระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00–20.00 น. ณ ฮอลล์ 11–12 อิมแพค เมืองทองธานี