‘ม.อ.-อภัยภูเบศร’พัฒนาสมุนไพรฉุกเฉิน ลดพึ่งพายานำเข้า
สถานการณ์ความไม่สงบทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ทำให้หลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศสและอีกหลายชาติในยุโรป เร่งเตรียมระบบการแพทย์เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีความไม่ปกติในพื้นที่ชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก จึงถึงเวลาที่ต้องเสริมความมั่นคงด้านเวชภัณฑ์จากภูมิปัญญาและสมุนไพรไทย
วานนี้ (24 กันยายน 2568) รศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้หารือร่วมกับ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อวางแนวทางความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยเน้น การห้ามเลือดและการบรรเทาปวด
ทั้งนี้ ทีมวิจัย ม.อ. เคยได้รับ รางวัลดีเด่นอันดับ 1 จากโครงการพัฒนา “ไมโครแคปซูลควบคุมการปลดปล่อยสารแคนนาบิมิเมติกส์และฟลาโวนอยด์” เพื่อหยุดเลือดและระงับปวด ในกิจกรรม วันภูมิปัญญานักรบไทย ประจำปี 2568 และมีแผนต่อยอดสู่ แผ่นแปะห้ามเลือดผสมสารสกัดกัญชงและสาบเสือ ซึ่งสารสกัดกัญชงมีส่วนช่วยสมานแผล โดยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้น fibroblast และ collagen จึงช่วยให้ปิดแผลเร็วขึ้น และยังมีฤทธิ์ลดปวดได้ด้วย ส่วนสาบเสือเองนั้นมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว ต้านการรวมตัวของเกร็ดเลือด เร่งกระบวนการแข็งตัวของเลือด ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ผิวหนังต้านการอักเสบ และสมานแผล มีการวิจัยก่อนหน้าพบว่าสารสกัดใบสาบเสือสามารถหยุดเลือดได้เร็วกว่ากลุ่มควบคุมในสัตว์ทดลอง โดยทำให้เวลาการแข็งตัวของเลือดสั้นลง
ทางทีมมีแผนเริ่มจากการพัฒนาสารสกัดที่มีความคงสภาพ นำมาพัฒนาเป็นครีมปราศจากเชื้อ ทดสอบฤทธิ์ในเซลล์หรือสัตว์ทดลอง และทดสอบประสิทธิผลในคนเป็นขั้นตอนเป็นขั้นตอนสุดท้าย ส่วนผลิตภัณฑ์อีกกลุ่มที่ทางทีมจะดำเนินต่อเพื่อนำมาใช้ประโยชน์คือ แคปซูลจากสารสกัดกระท่อม เพื่อบรรเทาอาการปวดที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง ซึ่งที่ผ่านมาสถาบันวิจัยได้มีการศึกษาคุณภาพของใบกระท่อม และนำมาทำเป็นสารสกัดหลายรูปแบบ รวมถึงการศึกษาความเป็นพิษจนได้ขนาดที่นำมาใช้ในคนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทางสถาบันวิจัยและอภัยภูเบศร ร่วมกับเครือข่ายจะดำเนินการร่วมกันในการพัฒนาแคปซูลจากสารสกัดที่มีความคงสภาพ และดูดซึมผ่านทางเดินอาหารเพื่อให้ออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น และจะนำไปขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน
การประชุมครั้งนี้ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ พลตรี นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ภญ.วรสุดา ยูงทอง ผู้อำนวยการกองยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ภญ.วรรณนิษา เถียรทวี ผู้เชี่ยวชาญกองนโยบายแห่งชาติด้านยา
ดร.ภก.วีระชัย พิพัฒน์รัตนเสรี ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา และรศ.ดร.จินดาพร ภูริพัฒนวงศ์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภก.กิตติ สุคันโธ สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ และดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เข้าร่วมวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบสู่การนำไปใช้ประโยชน์ โดยมุ่งเป้าใช้วัตถุดิบในประเทศ 100% ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และทำให้มียาพร้อมใช้ในภาวะฉุกเฉินเพื่อเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองของประเทศ โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าเป็นระยะ เพื่อผลักดันให้สมุนไพรไทยก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญในการแพทย์ฉุกเฉินในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี