ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แถลงจับกุม 2 ผัวเมีย ชาว จ.มหาสารคาม พร้อมลูกสมุน รวม 3 คน หลังถูกตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จ.บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ติดตามไล่ล่าจับกุมตัวได้ ขณะกำลังขนลำเลียงยาบ้า 2 ล้านเม็ด จาก จ.นครพนม ผ่าน จ.บุรีรัมย์ เตรียมนำไปส่งนายทุนปลายทางที่ จ.สระบุรี
30 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ,พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช รองจเรตำรวจแห่งชาติ (รอง จตร.) ช่วยราชการ ตำรวจภูธรภาค 3 ในและผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์ปฎิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 3(ผู้ช่วย ผอ.ศอ.ปส.ภ.3) นายมานพ แสงโสทร ผู้อำนวยการ สำนักงาน ปปส.ภาค 3 พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผกก.สภ.ลำปลายมาศ และพันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอลำปลายมาศ
แถลงข่าวผลงานการจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดยาเสพติด ตามยุทธการ ‘พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้’ ซึ่งเป็นการบูรณาการกำลังร่วมกันระหว่าง ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายปราบปราม สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ,ตำรวจชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) ,เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 22 ข่าวกรองทหาร กองกำลังสุรนารี ขกท.ศปก.ทบ. (นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี) และสำนักการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (สขว.กอ.รมน.) จับกุมตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้ 3 คน พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 2 ล้านเม็ด และรถยนต์ 2 คัน ได้ในพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 มิ.ย.68
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้สืบสวนสอบสวนทราบว่า นายทองคำ จันดาหัวดง (บาส) อายุ 29 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในกลุ่มติดตามของ ป.ป.ส. มีพฤติการณ์ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด โดยทำหน้าที่รับคำสั่งจากจากชาวลาว ไปรับยาบ้าที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แล้วจะลำเลียงนำยาบ้ามาพักไว้ในพื้นที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทองคำ หรือบาส ก่อนจะขนยาบ้าลำเลียงไปส่งต่อยังพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์กระบะลักษณะแต่งซิ่ง 2 คัน เป็นรถขนยาบ้ากับรถสเก๊าท์ขับนำหน้า และจะขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ผ่าน อ.พุทไธสง อ.คูเมือง อ.ลำปลายมาศ โดยมีปลายทางที่ จ.สระบุรี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนจัดกำลังร่วมตรวจสอบตามเส้นทาง และตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองลำปลายมาศ ต.ลำปลายมาศ กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขับผ่านเข้ามาใกล้จุดตรวจในลักษณะมีลักษณะพิรุธ เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันแรกได้ขับเลี้ยวหลบหนีเข้าไปและหลบหนีไปได้ก่อน ส่วนรถอีกคันที่ขับตามหลังก็ได้ขับหลบหนีเลี้ยวซ้ายเข้าซอยมุ่งหน้าไปทางด้านบ้านหนองมันปลา ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไล่ล่าติดตามอย่างกระชั้นชิด โดยคนร้ายได้ขับรถยนต์เบียดและชนรถจักรยานยนต์สายตรวจที่ไล่ติดตามจนตกข้างถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามยิงล้อรถเพื่อสกัดให้รถหยุด แต่รถยนต์คันดังกล่าวยังไม่ยอมลดละ ยังขับด้วยความเร็วสูงไปจนถึงบริเวณสามแยกบ้านหนองมันปลา ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ ไม่สามารถขับต่อไปได้ รวมระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ระหว่างนั้น นายทองคำ หรือบาส ซึ่งเป็นคนขับรถได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าท่ามกลางความมืด ทิ้งให้ น.ส.ลัดดาวัลย์ ทามแก้ว (บี)อายุ 28 ปี แฟนสาวของนายทองคำ หรือบาส ที่พยายามจะวิ่งหลบหนีแต่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำก้อนใหญ่รวม 5 ก้อนๆละ 4 แสนเม็ด รวมยาบ้าจำนวนประมาณ 2 ล้านเม็ด จึงทำการตรวจยึดและควบคุมตัว น.ส.ลัดดาวัลย์ หรือบี มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ลำปลายมาศ ก่อนจะกระจายกำลังออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัว นายทองคำ หรือบาส พร้อมพวกที่หลบหนี กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายทองคำ หรือบาส ได้ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 มิ.ย.68 ขณะกำลังเดินลัดทุ่งนาหลบหนีในพื้นที่ ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัว นายพงพิสิทธิ์ ชิงรัมย์ หรือก๊อก อายุ 29 ปี ชาว อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ซึ่งทำหน้าที่ขับรถสเก๊าท์นำทางเพื่อดูต้นทาง ได้ในพื้นที่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา พร้อมรถยนต์ที่ขับรถสเก๊าท์นำทาง ที่มีนายพงพิสิทธิ์ หรือก๊อก เป็นคนขับ และมีนายราชวัตร อาปัดชิง (เฟรม) อายุ 25 ปี กับนายชุติพนธ์ แก้วบุดสา (ออย) อายุ 27 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.มหาสารคาม และเป็นลูกน้องของ นายทองคำ หรือบาส นั่งมากับรถสเก๊าท์นำทาง ได้แยกย้ายกันหลบหนีไปได้ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากสอบถามนายทองคำ หรือบาส ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งทีมขนลำเลียงยาบ้า ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองเคยถูกจับกุมทั้งในคดียาเสพติดและคดีอื่นๆมาแล้วหลายคดี ก่อนจะมาถูกจับกุมในครั้งนี้อีก ซึ่งตนกับพวกได้ไปขนยาบ้ามาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งๆละ 2 ล้านเม็ด จากพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อขนไปส่งปลายทาง จ.สระบุรี ครั้งแรกเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับค่าจ้าง 2.5 แสนบาท และครั้งนี้ก็ไปรับมาอีกโดยใช้รถยนต์ 2 คัน เป็นรถที่ใช้ขนยาบ้า 1 คัน มีตนเองเป็นคนขับและแฟนสาวนั่งมาด้วย ส่วนรถอีกคันเป็นรถเล หรือ รถสเก๊าท์นำทาง มีนายพงพิสิทธิ์ หรือก๊อก เป็นคนขับ และมีนายราชวัตร หรือเฟรม กับนายชุติพนธ์ หรือออย นั่งโดยสารมาด้วย เพื่อคอยตรวจดูเส้นทางล่วงหน้า พอขับมาถึงเขต อ.ลำปลายมาศ เห็นตำรวจตั้งด่านจึงพากันขับรถแยกย้ายหลบหนี ก่อนจะถูกตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า ของกลางยาบ้าทั้งหมดเป็นยาบ้าที่มีฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้มีการลำเลียงผ่านเข้ามาจากฝั่งตอนบนของประเทศ แล้วเข้ามาสู่ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน เพื่อขนลำเลียงไปส่งต่อนายทุนในพื้นที่ภาคกลาง คือ จ.สระบุรี ก่อนที่ยาบ้าชุดนี้จะตีย้อนกลับเข้ามาจำหน่ายยังพื้นที่จังหวัดชั้นในและจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งหากยาบ้าชุดนี้สามารถหลุดรอดไปได้ก็มีมูลค่าจำหน่ายในตลาดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท.
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี