วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘เจ้าคุณอาชว์’ฉาว ลาสึกกะทันหัน-เผ่นไปลาว หึ่งโดนสีกาคู่ขาแบล็กเมล์

‘เจ้าคุณอาชว์’ฉาว ลาสึกกะทันหัน-เผ่นไปลาว หึ่งโดนสีกาคู่ขาแบล็กเมล์

วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : เจ้าคุณอาชว์ ฉาว แบล็กเมล์ ลาสึก สีกา
  •  

‘เจ้าคุณอาชว์’ฉาว

ลาสึกกะทันหัน-เผ่นไปลาว

หึ่งโดนสีกาคู่ขาแบล็กเมล์

 

ตำรวจ ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. รุดตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของ “วัดตรีทศเทพฯ” ภายหลัง “เจ้าคุณอาชว์”อดีตเจ้าอาวาสสึกกะทันหัน คาดใช้เวลาตรวจสอบสักระยะด้านเพจดัง “ดาวแปดแฉก” เปิดข้อมูลหลังลาสิกขาเตรียมข้ามฝั่งไปลาว และมุ่งหน้าเยอรมนี ข้อมูลใหม่ชี้เพิ่งกลับจากเดนมาร์กขณะยังเป็นพระ ตร.เผยสาเหตุต้องลาสึก เพราะถูกสีกากุเรื่องตั้งท้อง ไถเงิน 7.6 ล้านบาท ค่าเลี้ยงดูลูก ก่อนจับได้ว่า “ท้องทิพย์” ปัดจ่ายเงิน ทำสีกาแค้น ปล่อยคลิปลับเปิดโรงแรมพลอดรัก จนต้องสึกหนีออกจากวัด

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ปทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปท. และ ป.ป.ช. นำกำลัง เดินทางไปยังศาลาตรีวชิรญาณ วัดตรีทศเทพวรวิหาร ถนนประชาธิปไตย แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม.เพื่อตรวจสอบกรณีพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร สึกจากพระ อย่างกะทันหัน โดยทำพิธีสึกในพื้นที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา และมีรายงานข่าวว่า ได้เดินทางไปยัง สปป.ลาว ทันที เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีเรื่องของการทุจริตที่เกิดขึ้นภายในวัดดังกล่าว เข้ามาเกี่ยวข้อง


ทั้งนี้ หนึ่งในชุดสืบสวน กก.1 บก.ปปป.ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าพบพระสงฆ์ของวัดตรีทศเทพวรวิหาร เพื่อขอตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ กรณีเจ้าอาวาส ได้สึกกะทันหัน โดยมีพระผู้ใหญ่ของวัด และพระเลขาฯ ของเจ้าอาวาสวัด ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าพบ และให้ความร่วมมือในการนำบัญชีธนาคารต่างๆ ของวัด มาแสดง รวมทั้งให้ตรวจสอบทุกอย่าง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวสอบถามคนงานของวัดดังกล่าว ทราบว่าเจ้าอาวาสที่สึกไป ได้บวชเรียนอยู่ที่วัดกว่า 20 ปี หลังจากได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส เมื่อปี 2565 วัดเริ่มเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานเก่าๆ รวมทั้งมีการนำคนของตัวเอง เข้ามาทำงาน เข้ามาบริหารจัดการ วางระบบใหม่ในวัด คนงานเก่าถูกให้ออก และการบริหารงานในวัดเริ่มมีปัญหาเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน

สำหรับเจ้าคุณอาชว์ ถือเป็นพระดาวรุ่งสายธรรมยุต อายุ 54 ปี พรรษา 34 ซึ่งถือว่าได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ ทั้งที่อายุยังน้อย รวมทั้งเป็นเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า การสึกจากพระครั้งนี้ ได้หลบหนีคดีอะไรหรือไม่

ขณะที่ พระมหาวัฒนา ปญฺญาทีโป ปธ.9 อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “PhramahaWattana Khamken” ระบุว่า ภาพการลาสิกขา พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ (ธรรมยุตินิกาย) เมื่อเช้านี้ 29/6/68 ที่จังหวัดหนองคายและเดินทางข้ามฝั่งไปประเทศลาวทันที โดยแหล่งข่าวไม่เปิดเผยข้อมูล และต่อมามีการตั้งรักษาการเจ้าอาวาสใหม่ทันทีเช่นกัน หลายฝ่ายสันนิษฐานว่า น่าจะเกี่ยวกับการประพฤติผิดพระธรรมวินัยขั้นร้ายแรง และกฎหมายอาญาแผ่นดิน

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า คดีพระฝ่ายมหานิกายมักถูกจับดำเนินคดีได้ เช่นคดี พระพรหมดิลก วัดสามพระยา, พระพรหมสิทธิ์ และคณะวัดสระเกศ, และคดีอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (ทิดแย้ม) วัดไร่ขิง ส่วนคดีเกี่ยวกับพระผู้ใหญ่สายธรรมยุติ จะปิดเงียบไม่มีข้อมูล และช่วยเหลือกันไม่ให้ถูกจับกุมดำเนินคดี รอสำนักงานพระพุทธศาสนาออกมาชี้แจงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ได้มีคำสั่งเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ระบุว่า โดยที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพว่างลง จึงแต่งตั้งให้พระพรหมวชิรรังษี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร (ธรรมยุต) เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ ได้ทำการลาสิกขาอย่างกะทันหัน ที่ จ.หนองคาย โดยมีกระแสข่าวว่าสาเหตุอาจเชื่อมโยงกับกรณีที่อดีตเจ้าอาวาสเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลว่าอดีตเจ้าอาวาสกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันหรือการพนันออนไลน์แต่อย่างใด หากมีการสืบสวนสอบสวนแล้วพบว่าความเชื่อมโยง ทางตำรวจไซเบอร์ก็จะดำเนินการในส่วนนี้อีกครั้ง

ขณะที่เพจชื่อดัง “ดาวแปดแฉก” ได้โพสต์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกรณีการลาสิกขาของ พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร ที่สร้างความสับสนและเป็นที่จับตาอย่างกว้างขวางในสังคม โดยระบุว่า “เจ้าคุณอาชว์” ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ พร้อมคนขับรถเพียงลำพัง เพื่อมายังวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย และทำการลาสิกขาบทเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2568 เวลา 14.45 น. ที่วัดจันทรสามัคคี (ตามข้อมูลที่ส่งถึงสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) ท่ามกลางความงุนงงของคณะสงฆ์ผู้ทำพิธีสึกให้ เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างสูง

หลังการลาสิกขาบท คนใกล้ชิดของ “ทิดอาชว์” ได้อ้างกับพระบางรูปว่า “ทิดอาชว์” มีความประสงค์จะเดินทางข้ามฝั่งไปยัง สปป.ลาว และมีกระแสข่าวลือหนาหูว่าจุดหมายปลายทางที่แท้จริงคือประเทศเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวยังเผยถึงเส้นทางการเดินทางที่ซับซ้อนก่อนการลาสิกขา โดยตำรวจไทยได้รับการประสานข้อมูลจากตำรวจ สปป.ลาว ว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 21.20 น. “เจ้าคุณอาชว์” ได้เดินทางเข้า สปป.ลาว ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย และได้ไปพบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งที่วัดไตน้อยรัตนมงคล เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อขอลาสิกขาบทที่นั่น

ทว่า พระสงฆ์ที่วัดไตน้อยรัตนมงคลไม่สามารถทำตามความประสงค์ได้ โดยให้เหตุผลว่า “เจ้าคุณอาชว์” ไม่ได้บวชที่ สปป.ลาว และยังเป็นพระสงฆ์ไทย สัญชาติไทย อีกทั้งพระอุปัชฌาย์ก็อยู่ในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ “เจ้าคุณอาชว์” จึงต้องเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 29 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 12.50 น. ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหาดทรายฟอง สปป.ลาว กลับเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย ก่อนจะไปลาสิกขาที่วัดจันทรสามัคคีในเวลาต่อมา

ข้อมูลที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ตำรวจไทยยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 ก่อนการลาสิกขา “ทิดอาชว์” ได้เดินทางไปยังเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 22.00 น. และเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 24 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 06.20 น. โดยในขณะนั้นยังคงใช้หนังสือเดินทางที่มีคำนำหน้าว่า “พระ”

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ได้เดินทางเข้าพบผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เพื่อหารือเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของวัดแล้ว หลังการลาสิกขาเงียบของอดีตเจ้าอาวาสเป็นข่าวครึกโครมในสื่อออนไลน์

ประเด็นที่ยังคงเป็นปริศนาคือ หลังการลาสิกขาบทแล้ว ตำรวจไทยยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกจากประเทศไทยของ “ทิดอาชว์” เนื่องจากหนังสือเดินทางเล่มเก่าที่มีคำนำหน้าว่า “พระ” ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป และยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศด้วยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) จึงยังคงเป็นคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “ทิดอาชว์” และเหตุใดจึงต้องสมัครใจลาสิกขาอย่างกะทันหันเช่นนี้

มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า มูลเหตุที่ทำให้ เจ้าคุณอาชว์ต้องลาสิกขาจากความเป็นพระดังกล่าวนั้น มาจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสีการายหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลว่า เมื่อปี 2565 ได้มีสีกา ก. (นามสมมติ) อายุ 35 ปี หญิงสาวหน้าตาดี เข้ามาทำทีตีสนิทเจ้าคุณอาชว์ จากนั้นก็เริ่มพัฒนาจนกลายเป็นความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวแบบลับๆ มีการนัดพบเพื่อร่วมหลับนอนกันตามโรงแรมต่างๆหลายครั้งมาจนถึงปัจจุบัน

กระทั่งเมื่อกลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรากฎข่าวกรณี ทิดแย้ม ถูกจับดำเนินคดีจากกรณียักยอกเงินวัดเลี้ยงดูหญิงสาวตามสื่อต่างๆ จึงทำให้ เจ้าคุณอาชว์ ซึ่งมีพฤติกรรมคล้ายกันเกิดความกังวล พยายามตีตัวออกห่าง เมื่อสีกา ก. เริ่มรับรู้ท่าทีของ เจ้าคุณอาชว์ จึงเกิดความไม่พอใจ กุเรื่องอ้างว่าตัวเองตั้งครรภ์ขึ้นมา เพื่อจะข่มขู่เรียกเงิน โดยส่งข้อความไปหา ขอค่าเลี้ยงดูลูก จำนวน 7,680,000 บาท นับตั้งแต่คลอดจนถึงอายุ 20 ปี เฉลี่ยตกเดือนละ 32,000 บาท

แต่ภายหลัง เจ้าคุณอาชว์ ทราบความจริงว่า สีกา ก. ไม่ได้ตั้งครรภ์ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงตัดสินใจปฏิเสธที่จะจ่ายเงินให้กับสีกา ก. ทำให้สีกา ก. จึงนำเรื่อง ไปบอกให้พระรูปหนึ่งทราบ โดยมีคลิปหลักฐานเป็นภาพคลิปวิดีโอของ เจ้าคุณอาชว์ ขณะกำลังยืนแต่งตัวสวมสบงท่อนล่าง ส่วนท่อนบนเปลือยเปล่า อยู่ในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีเสียงของสีกา ก. พูดแทรกอยู่ในคลิปตลอดเวลา และ หลักฐานคลิปวิดีโอคอลพูดคุยกับสีกา ก. ในลักษณะให้คำสัญญาว่าจะหมั้นหมายเพื่อแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงแชตสนทนาพูดคุยเชิงชู้สาว เพื่อหวังสร้างแรงกดดันให้ เจ้าคุณอาชว์ ยอมจ่ายเงิน

ต่อมา เรื่องราวของทั้งคู่ถูกเผยแพร่ปากต่อปาก จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในแวดวงสงฆ์ระดับสูง ก่อนจะมีพระผู้ใหญ่บางรูปทนรับพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว นำเรื่องพร้อมหลักฐานยื่นร้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยตรวจสอบ จากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เตรียมประสานให้เจ้าคุณอาชว์ เข้าให้ข้อมูล แต่ ระหว่างนั้นเจ้าคุณอาชว์ รู้ตัวก่อนรีบชิงลาสิกขา แล้วเดินทางหนีข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านในทันที

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหารและเจ้าคณะภาค 14–15 (ธรรมยุต) ลาสิกขาอย่างเร่งด่วนโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนเดินทางข้ามชายแดนไปยัง สปป.ลาวภายในวันเดียวกันว่าตนก็ได้ติดตามเรื่องนี้ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่สึกคืออะไร โดยผู้อำนวยการพศ.กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ตนมองว่า เรื่องนี้มีความผิดปกติและได้สั่งไปตั้งแต่ตอนเช้าวันเดียวกันว่าให้ตรวจสอบเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ขอย้ำว่าเป็นเรื่องผิดปกติที่ต้องตรวจสอบ

เมื่อถามว่าอาจจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องสีกาหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่รู้รายละเอียดจึงไม่ควรไปคาดการณ์ จะทำให้เสียหาย รอตรวจสอบให้แน่นอนก่อน ตนไม่สามารถไปตรวจสอบเองได้จึงต้องให้ผู้อำนวยการ พศ.ดูว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร คาดว่า จะทราบข้อเท็จจริงในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเย็นนี้ หรือเช้าวันที่ 1 ก.ค.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สำนักพุทธฯ เชื่อ ‘เจ้าคุณอาชว์’ โดนหลอก พบผู้หญิงเคยทำให้พระสึกมาแล้ว 2 รูป สำนักพุทธฯ เชื่อ ‘เจ้าคุณอาชว์’ โดนหลอก พบผู้หญิงเคยทำให้พระสึกมาแล้ว 2 รูป
  • \'บิ๊กเต่า\'เรียกทีมงานประชุมด่วน! สั่งสอบเส้นทางการเงินวัด-คลิปลับ\'เจ้าคุณอาชว์-สีกาคนสนิท\' 'บิ๊กเต่า'เรียกทีมงานประชุมด่วน! สั่งสอบเส้นทางการเงินวัด-คลิปลับ'เจ้าคุณอาชว์-สีกาคนสนิท'
  • ไม่พบข้อมูลเดินทาง! คาด\'อดีตเจ้าคุณอาชว์\'ยังอยู่ในไทย มีคนให้ที่พักพิง ไม่พบข้อมูลเดินทาง! คาด'อดีตเจ้าคุณอาชว์'ยังอยู่ในไทย มีคนให้ที่พักพิง
  • เตือนภัยแก๊งคอลสยิว  ก๊อบปี้ภาพตร.หญิง  ลวงหนุ่มแชทเสียว  ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ เตือนภัยแก๊งคอลสยิว ก๊อบปี้ภาพตร.หญิง ลวงหนุ่มแชทเสียว ถ่ายคลิปแบล็กเมล์
  • พระวัดดังแจ้งความ มือดีโปรยใบปลิวแฉเล่นชู้ จนไม่กล้าออกบิณฑบาต พระวัดดังแจ้งความ มือดีโปรยใบปลิวแฉเล่นชู้ จนไม่กล้าออกบิณฑบาต
  •  

Breaking News

‘2 นายอำเภอตราด’เร่งทำทะเบียนให้ผู้ที่ได้รับสัญชาติไทยตามคำสั่งมหาดไทย เผยมีเกือบ 2 พันคน

สายฝนกระหน่ำสำโรง น้ำท่วมขัง'ถนนเทพารักษ์'สมุทรปราการ

‘ยะลา’จัดพิธีสวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ

ลูกบ้านรวมกลุ่มโวย‘ผญบ.’ไม่โปร่งใส สารภาพนำเงินกองทุนฯไปใช้ทางอื่น

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved