ตำรวจบุรีรัมย์ทลายแก๊ง "อาก้า" ค้ายานรก-กร่าง 4 อำเภอ พบคลิปลับข่มขู่เหยื่อ มีสมาชิกกว่า 200 คน!

วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ นายณัฐพล หรือหนุ่ย อายุ 29 ปี (หัวหน้าแก๊ง "อาก้า") , นายจีราวัฒน์ หรือบิ๊ก อายุ 26 ปี และ นายเอกรินทร์ หรือจอม อายุ 18 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 16,000 เม็ด, เคตามีนประมาณ 3.8 กรัม, อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก (ขนาด 11 มม. และ .38), เครื่องกระสุนปืน, รถจักรยานยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง การจับกุมครั้งนี้สร้างความดีใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ถึงขั้นนำดอกไม้มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการขอบคุณ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำ นำโดย พ.ต.อ.อนันต์ ทองบันเทิง ผู้กำกับการ สภ.ปะคำ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเป็นจำนวนมากว่ามีกลุ่มวัยรุ่นตั้งตัวเป็นอันธพาล ออกตระเวนทำร้ายชาวบ้านในหลายหมู่บ้านโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา เปิดเผยว่า แก๊งนี้มีพฤติกรรมน่าจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากพยายามทำตัวเป็น "แก๊งขาวสะอาด" คือไม่เสพยา แต่เบื้องหลังกลับค้ายาบ้า โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งอย่างนายณัฐพล ที่ทำตัวเป็นเน็ตไอดอล ทำให้มีวัยรุ่นหลงเชื่อและเข้าร่วมแก๊งกว่า 200 คน ขยายอิทธิพลก่อเหตุในพื้นที่ถึง 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นางรอง, อ.โนนสุวรรณ, อ.ปะคำ และ อ.บ้านกรวด

จากการสืบสวนทราบว่า นายณัฐพล หัวหน้าแก๊ง ได้สั่งซื้อยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และให้นายเอกรินทร์ เป็นผู้จำหน่าย ส่วนนายจีราวัฒน์ มีหน้าที่เก็บรักษายา เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ที่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 224 ทางเข้าบ้านดอนนางงาม หมู่ที่ 5 ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์

นอกจากนี้ การตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าแก๊งยังพบ คลิปวิดีโอสุดสะเทือนขวัญ ที่นายณัฐพลใช้ปืนจ่อปากชายคนหนึ่งพร้อมกับทำร้ายร่างกาย จากการสอบปากคำทราบว่า ชายในคลิปคือนายเอกรินทร์ ที่เอายาบ้าไปขายแล้วไม่จ่ายเงิน และคลิปดังกล่าวถูกทำขึ้นเพื่อข่มขู่ให้รุ่นน้องคนอื่นๆ ดูเป็นตัวอย่าง

นายสมหมาย ค้าขึ้น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านดอนนางงาม ต.หนองบัว อ.ปะคำ กล่าวว่า แก๊งนี้เคยก่อเหตุทำร้ายประชาชนทั่วไปโดยไม่มีเหตุผล หากมีงานรวมตัวกันเมื่อไร ก็จะนัดสมาชิกมารวมตัวกันถึง 100-200 คน สร้างปัญหาและความหวาดผวาให้กับชาวบ้านและเกรงว่าบุตรหลานจะได้รับอันตราย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการขาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป" รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 001