‘สภา กทม.’เดือด! ‘ประธาน’ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง สวนมติ‘พรรคเพื่อไทย’ให้ลาออก 25 สก.เข้าชื่อเสนอญัตติเลือกประธานสภาคนใหม่ ยังไม่ได้บรรจุ
2 กรกฎาคม 2568 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 3 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกทม. สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายสุรจิตต์ กล่าวแจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากนายวิพุธ ศรีวะอุไร สก.เขตบางรัก รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 1 ได้ทำหนังสือออกจากตำแหน่งรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 1 ตามมาตรา 26 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 1 ในคราวประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.67
ที่ประชุมได้เสนอ นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย สก.เขตบึงกุ่ม ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่ 1 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติรับรองให้นายเนติภูมิ นั่งดำรงตำแหน่งรองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่ 1
นายสุรจิตต์ ไม่ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการลาออกจากตำแหน่งประธานสภากรุงเทพมหานคร ตามมติพรรคเพื่อไทย ที่ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมรายงานผลลงคะแนนเสียงข้างมาก มีมติให้ นายวิพุธ ศรีวะอุไร รับตำแหน่งประธานสภากรุงเทพมหานคร แทนนายสุรจิตต์ และ นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย รับตำแหน่งรองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่ 1 แต่นายสุรจิตต์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ประธานสภากรุงเทพมหานครต่อเนื่อง
จนกระทั่ง เวลา 12.15 น. บรรยากาศตึงเครียดเมื่อนางสาวนฤนันท์มนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตคลองสามวา ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาโดยอาศัยข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่ 27 ขอให้มีการประชุมลับและเลือกตั้งประธานสภากรุงเทพมหานครคนใหม่ โดยมี สก. จำนวน 25 คนร่วมลงชื่อในหนังสือเพื่อยื่นต่อประธานสภากทม. โดยมีสมาชิกลงชื่อรับรองให้มีการประชุมลับครบ 1 ใน 4 ของสภาแล้ว ซึ่งเป็นความเห็นร่วมกันของสมาชิก จึงขอให้ประธานสภาฯ พิจารณา
นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร ได้สอบถามถึงเหตุผลความเร่งด่วนของญัตติดังกล่าว และระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการประชุมลับ โดยให้เหตุผลว่าการทำงานของสภากทม. ควรมีความโปร่งใส และตั้งคำถามกลับว่ามีประเด็นใดที่ต้องปิดบังประชาชนหรือไม่ และ นายสุรจิตต์ ได้วินิจฉัยว่าญัตติดังกล่าว ยังไม่เป็นเรื่องด่วน เนื่องจากยังมีวาระความเดือดร้อนของประชาชนที่ค้างการพิจารณาอยู่หลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม ญัตตินี้ยังสามารถเสนอได้ตามข้อบังคับข้อที่ 38 และเพื่อความชัดเจน ตนจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป ส่วนประเด็นการประชุมลับนั้น เมื่อมีการถ่ายทอดสดอยู่แล้ว ก็ไม่ควรงดการถ่ายทอด
จากนั้นการอภิปรายได้เข้มข้นขึ้น โดย นายธีรพล กนกวลัย สก. เขตพญาไท ได้เสนอขอให้พักการประชุม ขณะที่ นายนภาพร จีระกุล สก. เขตบางกอกน้อย กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงขอให้พักการประชุมเพื่อหารือนอกรอบ นางนฤนันท์มนต์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายอีกครั้ง โดยอ้างข้อบังคับการประชุมข้อที่ 126 ว่าหากมีปัญหาในการตีความข้อบังคับ ให้สภาเป็นผู้ลงมติชี้ขาด
ด้าน นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สก. เขตมีนบุรี ลุกขึ้นชี้แจงด้วยว่า การยื่นญัตติเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิก ประธานสภาฯ มีหน้าที่ต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระ จะปฏิเสธไม่บรรจุไม่ได้ ส่วนจะพิจารณาเมื่อใดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เกิดการโต้เถียงขึ้น นายสุรจิตต์ ชี้แจงว่า "ตนไม่ได้บอกว่าจะไม่บรรจุ แต่จะยังไม่บรรจุในวันนี้ เพราะขอตรวจสอบเอกสารก่อน"
นายวิรัตน์ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า "เมื่อสักครู่ท่านประธานวินิจฉัยแล้วว่าไม่บรรจุ ทุกคนได้ยินหมด ถอดเทปฟังได้ ผมขอประท้วง ตามเอกสิทธิ์ของสมาชิก ท่านต้องบรรจุวาระก่อน ส่วนจะพักการประชุมหรือขอเวลาตรวจสอบเอกสาร เป็นสิทธิ์ของท่านที่จะทำทีหลัง"
ท้ายที่สุด ดร.สุรจิตต์ ยืนยันว่า "ผมพูดชัดเจนว่าจะไม่บรรจุภายในวันนี้ แต่จะบรรจุในครั้งต่อไป" และได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และมีการพักการประชุมต่ออีก 1 ชม. เปิดประชุมอีกครั้ง เวลา 14.40 น. ดำเนินการประชุมตามวาระการประชุมที่เหลือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี