เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ซึ่งปฎิบัติหน้าที่บริเวณด่านพรมแดน ประจำจุดผ่อนปรนการค้า "ช่องสายตะกู" อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังคงทำการเปิด-ปิดประตูช่องเทางเข้า-ออก ตรงตามวันและเวลาการเปิด-ปิด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม แต่ยังคงงดห้ามไม่ให้คนและยานพาหนะเข้า-ออก ขณะเดียวกันพบว่ามีความเคลื่อนไหวในฝั่งกัมพูชา โดยมีการนำรถยนต์ตู้ขนคนเข้า-ออก ยังอาคารที่คาดว่าเป็นที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย โดยทหาร ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคง ยังคงทำการไขกุญแจเปิดประตูช่องทางเข้า-ออก สำหรับราษฎรฝั่งไทยและราษฎรฝั่งกัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่อนปรนการค้า ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ในระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. ของทุกวันอังคาร พุธ และวันพฤหัสบดี ในขณะที่ฝั่งกัมพูชา ยังคงปิดประตูช่องทางเข้า-ออกเหมือนเดิม

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม และเป็นการปฎิบัติตามระเบียบและหลักสากล เช่น ด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน ด้านการศึกษาของนักเรียน และนักศึกษาในพื้นที่ การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ตามความเหมาะสมและจำเป็น เป็นต้น

แต่ยังคงงดไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้า-ออกในช่องทางดังกล่าว รวมถึงการค้าขายทุกประเภท และงดไม่ให้ยานพาหนะทุกประเภทผ่านเข้า-ออก ในช่องทางดังกล่าว

ทั้งนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย จะได้ทำการเปิดประตูช่องทางเข้า-ออก พบว่าในช่วงเวลาประมาณ 07.20 น. ของวันนี้ พบว่าทางฝั่งของกัมพูชา บริเวณอาคารแห่งใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จได้ไม่นาน ที่มีรั้วกำแพงสูงกั้น ซึ่งคาดว่าเป็นที่ตั้งของสำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งสแกมเมอร์ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อาคารจุ๊บโกกี รีสอร์ท แอน คาสิโน ได้มีรถยนต์ตู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 5 คัน ขับเข้ามาจากนั้นมีกลุ่มคนเอเชีย ทั้งชายและหญิง ซึ่งดูจากลักษณะแล้วไม่น่าจะใช่ชาวกัมพูชา ได้ลงจากรถเดินเข้าตัวอาคาร และได้มีกลุ่มคนเอเชียทั้งชายและหญิง ได้เดินขึ้นรถบยนต์ตู้ดังกล่าว ก่อนที่รถยนต์ตู้จะขับเข้าออกไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการขนคนเข้า-ออก มาทำงานในกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งสแกมเมอร์