สกัดจับ15เขมร หนีตายกลับไทย โอดโดนทอดทิ้ง ย้อนหานายจ้าง

สกัดจับ15เขมร หนีตายกลับไทย โอดโดนทอดทิ้ง ย้อนหานายจ้าง

วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สกัดจับ15เขมร

หนีตายกลับไทย

โอดโดนทอดทิ้ง

ย้อนหานายจ้าง

 

ทหารบุกรวบ 15 แรงงานกัมพูชาลอบเข้าไทย ที่ จ.สระแก้ว เผยกลับประเทศแล้วถูกทอดทิ้ง จึงหวนกลับมาหานายจ้างชาวไทย ยังมีอีกเพียบรอจังหวะเข้าไทย ส่วนที่กาญจนบุรีจับกุมแรงงานเมียนมาหนีเข้าไทย รวม 22 คน


เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา สั่งการให้กำลังพล ร่วมกับกองพันทหารม้า ที่ 30 ลาดตระเวนแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่บ้านผ่านศึก หมู่ 5 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเป็นไปตามนโยบายสกัดกั้นอย่างเข้มงวดของแม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมาก ที่ลักลอบข้ามแดนเข้ามาในประเทศไทย

พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสกัดจับแรงงานชาวกัมพูชา 15 คน เป็นชาย 6 หญิง 6 เด็กชาย 2 และเด็กหญิง 1 คน ขณะที่ลักลอบเดินเท้าข้ามแดนจากฝั่งกัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติริมชายแดน โดยทั้งหมดเดินลัดเลาะมาตามไร่อ้อย ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 250 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ทั้งหมด

สอบสวนเบื้องต้นแรงงานกลุ่มนี้ให้การว่า ต้องการเข้ามาหางานด้านการเกษตรในพื้นที่ จ.สระแก้ว เช่น รับจ้างตัดปาล์ม ตัดอ้อย และทำงานในสวนลำไย เนื่องจากเคยทำงานมาก่อน แต่หลังจากเดินทางกลับประเทศตามที่ผู้นำกัมพูชา แจ้งเตือนเมื่อเกือบ 2 เดือนก่อน กลับถูกรัฐบาลทอดทิ้ง ไม่มีงานทำ และขาดแคลนรายได้ จึงตัดสินใจลักลอบกลับเข้าไทย เพื่อมาหานายจ้างรายเดิมอีกครั้ง

ทั้งนี้ กลุ่มแรงงานดังกล่าว กล่าวอ้างด้วยว่า ยังมีแรงงานชาวกัมพูชาอีกจำนวนมากที่รออยู่ตามแนวชายแดน เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากด่านพรมแดนยังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รับไว้ดำเนินคดีต่อไป

วันเดียวกัน นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี และ ตชด.ที่ 134 บูรณาการร่วมกันในการเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยหลบซ่อนอยู่ภายในสวนปาล์ม ท้องที่หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้ามาโดยผิดกฎหมาย จึงเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบซ่อนตัวอยู่ รวม 14 คน เป็นชาย 9 และหญิง 5 คน ทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ นำมาแสดง อีกทั้งยังพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงนำส่ง สภ.สังขละบุรี ประสานล่าม เพื่อสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ แนวชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู ที่ติดกับ อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นจะมีผู้นำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่า เพื่อหลบด่านตรวจ แล้วมีรถยนต์มารับไปส่งที่สวนปาล์มเพื่อรอให้เรือมารับ

สำหรับแรงงานบางส่วนต้องการไปทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี นนทบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี และสมุทรสาคร ระหว่างรอรถจึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเสียก่อน โดยชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ยังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบกลุ่มบุคคลกำลังเดินลัดเลาะไปตามชายป่า ท้องที่หมู่ 8 บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จึงไปซุ่มดักรอ กระทั่งพบกลุ่มแรงงานต่างด้าว เป็นชาย 8 ราย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและควบคุมตัวไว้สอบสวนดำเนินคดี โดยนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินการก่อนผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top