‘สภ.เมืองขอนแก่น’คว้าแชมป์โลก World Smart City 2025 Award จากรัฐบาลเกาหลี

3 กรกฎาคม 2568 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, นายชินกร แก่นคง นายอำเภอเมืองขอนแก่น, พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น และพ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ นายปาร์ค ยงมิน (Mr. Park Yongmin) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยม สภ.เมืองขอนแก่น ภายหลังจากที่ สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกับโรงงานน้ำตาลมิตรผล และ บริษัท เพียร์สเปซ จำกัด นำเสนอการประกวด World Smart City 2025 Award ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 35 ประเทศทั่วโลก และ สภ.เมืองขอนแก่น ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย คว้ารางวัลชนะเลิศ สาขา Smart Security/Smart safety โดยจะเข้ารับรางวัลจากรัฐบาลเกาหลี ในวันที่ 16 ก.ค. 2568 ที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้

พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า สภ.เมืองขอนแก่น เป็นตัวแทนของประเทศไทย รับรางวัลชนะเลิศ สาขา Smart Security/Smart safety ซึ่งรัฐบาลเกาหลีได้สนับสนุนทุนงบประมาณ จำนวน 10 ล้านบาท ให้แก่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านความรักษาความปลอดภัยและบริหารการจราจร ด้วยระบบกล้อง CCTV แบบ AI อัจฉริยะ ตรวจจับพฤติกรรม 5 ประเภท ประกอบด้วยเรื่องการพกพาอาวุธปืน อาวุธมีด ไม้, ทำร้ายร่างกาย, เหตุทะเลาะวิวาท, เหตุคนล้มได้รับบาดเจ็บ, ไฟไหม้ และไม่สวมหมวกกันน็อค

“กล้อง CCTV แบบ AI อัจฉริยะ หรือ Smart AI CCTV คือระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อวิเคราะห์ภาพและวิดีโอแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจจับ แยกแยะ และแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ต่างจากกล้อง CCTV ทั่วไปที่ต้องมีคนคอยเฝ้าดูและวิเคราะห์ภาพ ซึ่งการตรวจจับพฤติกรรมดังกล่าว จะส่งภาพและสัญญาณเตือน มาที่ศูนย์ CCTV สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแจ้ง ตร. เข้าไประงับเหตุตรวจสอบเหตุ ทำให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นที่แรกของประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีมาใช้ตรวจจับ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ ซึ่งจะสามารถใช้งานได้จริงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2568 ใน 50 จุดเสี่ยงทั่วเมืองขอนแก่น”

พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าวอีกว่า สภ.เมืองขอนแก่นได้นำระบบกล้อง CCTV มาใช้ในจุดต่าง ๆ กว่า 70 จุดทั่วเมืองครอบคลุม 4 ตำบล ดูแลรักษาความปลอดภัยประชากรกว่า 20,000 คน โดยเน้นจุดเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหาอาชญากรรมและปัญหาจราจรซึ่งส่งสัญญาณมาที่ศูนย์ควบคุมที่ สภ.เมืองที่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูและวิเคราะห์เหตุการณ์ ซึ่งมีข้อจำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีจำกัด ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนกล้อง CCTV แบบ AI อัจฉริยะ หรือ Smart AI CCTV จะทำให้สะดวกและช่วยงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและปัญหาการจราจรได้ทันถ่วงที ทำให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว