ประเคนข้อหารับของโจร-ฟอกเงิน

จับ‘สีกากอล์ฟ’

ตร.เค้นสอบ-ค้านประกัน

เจ้าคณะพิจิตรยอมสึกแล้ว

พศ.ชี้ยังมีอีก11รูปพัวพัน

‘สุชาติ’ดันก.ม.เอาผิดสงฆ์

ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาอดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ยักยอกเงินวัด 3.8 แสนโอนให้สีกากอล์ฟ 12.8 ล้านบาท ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว ด้านพนักงานสอบสวน นำหมายศาล จับกุม‘สีกากอล์ฟ” เอาผิดฐานรับของโจร-ฟอกเงิน-สนับสนุน เจ้าพนักงานกระทำผิด ส่วนเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ยอมสึกแล้วหลังแชตหลุดคุยสีกากอล์ฟ ขณะที่ ‘สุชาติ’ เร่งสังคายนาปัญหาสงฆ์ ขอแก้ กม.3 วาระรวด ด้าน ผอ.พศ.แย้มครอบคลุมกรณีอวดอุตริ

เมื่อวันที่ 15กรกฎาคมผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.นำกำลังตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปท.ตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ของพระผู้ใหญ่ในวัดต่างๆ ภายหลังพบว่ามีส่วนพัวพันกับสีกากอล์ฟ หลังจากพบภาพและคลิปในโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ ในลักษณะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หรือบางรายมีการหลักฐานการโอนเงินให้กัน รวมกว่า 80,000 ภาพ และอีกกว่า 5,000 คลิป โดยมีพระที่ยอมลาสิกขาไปแล้ว 8 รูป และบางส่วนยังไม่ลาสิกขา และหายตัวไปจากวัด ว่าหลังจากตำรวจ บก.ปปป.สอบปากคำอดีตพระเทพพัชราภรณ์อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับเส้นเงินที่พบว่ามีการโอนให้สีกากอล์ฟ 12.8 ล้านบาท ยังไม่รวมเงินบัญชีวัด ที่โอนไปให้อีก 3.8แสนบาทซึ่งทางอดีตพระเทพพัชราภรณ์ รับสารภาพว่าโอนเงินจริง เพราะสีกากอล์ฟ มาขอยืมไปทำธุรกิจเซรามิก โดยทยอยโอนให้เรื่อยมาจนเกลี้ยงบัญชี

อดีตสมภารฯโอนเงินวัด3.8แสน

พระเทพพัชราภรณ์ ให้การอีกว่า เมื่อเงินส่วนตัวโอนไปหมดแล้ว สุดท้ายไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาให้ จึงหันมานำเงินของวัด 3.8 แสนบาท โอนไปให้ ก่อนจะนำเงินมาคืนเข้าบัญชีวัด

ตร.เอาผิดป.อาญามาตรา147-157

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ทางพนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวหาอดีตพระเทพพัชราภรณ์ ในฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินวัด และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ 157แต่อดีตพระเทพพัชราภรณ์มาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง ไม่คิดหลบหนี รวมทั้งให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวขณะเดียวกัน ยังมีคลิปหลักฐานอดีตพระเทพพัชราภรณ์ กับสีกากอล์ฟ ซึ่งประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทะเลาะกันเชิงผัวเมียภายในห้องส่วนตัว ถึงขั้นอดีตพระเทพพัชราภรณ์เกิดน้อยใจ จนต้องกระทำการเหมือนกับลงโทษตัวเองด้วย

ศาลออกหมายจับ‘สีกากอล์ฟ’

ด้าน พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.2 บก.ปปป.กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี เพื่อดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 เนื่องจากตรวจสอบพบว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมมาราม ได้โอนเงินจากบัญชีวัด 380,000 บาท ไปยังบัญชีสีกากอล์ฟ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว

แจ้งข้อหารับของโจร-ฟอกเงิน

ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.พร้อมด้วยพล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.นำกำลังเข้าจับกุมสีกากอล์ฟ ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลางข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด, รับของโจร,สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จับกุมได้ภายในบ้านพักหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ บช.ก.โดยทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก เกรงว่าจะหลบหนี

ตร.คุมตัวสอบเข้ม-ค้านประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการคุมตัวสีกากอล์ฟ มาสอบสวน บรรดาสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามทำข่าว ได้พยายามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สีกากอล์ฟ ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เอาแต่เดินก้มหน้าเข้าไปภายในอาคาร ทั้งนี้ คาดว่าพนักงานสอบสวนน่าจะสอบปากคำสีกากอล์ฟ ตลอดทั้งคืน ก่อนจะมีความเห็นคัดค้านการประกันตัว และเตรียมส่งฝากขังต่อศาลฯ ภายใน 48 ชั่วโมง ตามขั้นตอนกฎหมาย

เจ้าคณะพิจิตรยอมลาสิกขาแล้ว

ส่วนพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งพัวพันกับสีกากอล์ฟ โดยมีแชตหลุดเป็นการพูดคุยบอกคิดถึงกัน และภาพถ่ายฝ่ายพระสวมใส่เสื้อยืดสีขาว มีข้อความว่า I love youโดยไร้จีวร และมีคลิปเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ที่ได้ยินเสียงเจ้าคณะรูปดังกล่าวตำหนิสีกากอล์ฟเรื่องภาพหลุดในแชทนั้น ทางนายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า พระเทพวัชรสิทธิเมธี ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรแล้ว โดยคณะสงฆ์ภาค 4 ยังคงติดตามดำเนินการตามขั้นตอนโดยยึดพระธรรมวินัย

จากนั้นมีรายงานข่าวว่า พระเทพวัชรสิทธิเมธี ได้ลาสิกขาแล้ว โดยเดินทางไปทำพิธีลาสิกขาที่วัดตากฟ้า จ.นครสวรรค์โดยมีพระเทพปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดตากฟ้า เป็นผู้ทำพิธีให้

‘สุชาติ’ขึงขังแก้กม.ควบคุมสงฆ์

อีกด้านหนึ่ง นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัย ว่าควรแก้ไขกฎหมาย โดยรัฐบาลจะเร่งเจรจาในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้พิจารณาเร่งด่วน 3 วาระรวดซึ่งจะเป็นการแก้กฎหมาย เพราะถ้าเป็นการร่างกฎหมายใหม่มีหลายองค์ประกอบ ตอนนี้ต้องเน้นเรื่องพระสงฆ์ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนก่อน ส่วนที่จะแก้ไขเป็นเรื่องความผิดของผู้เสพเมถุน จะเป็นพระสงฆ์ สามเณร หรือสีกา มีโทษทั้งปรับสูงสุด 24,000 บาทและโทษจำคุก 1-7 ปี

ชี้กฎกระทรวงกำหนดโทษไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถนำกฎหมายเข้าสภาฯได้เมื่อใด นายสุชาติ กล่าวว่า กำลังเร่งอยู่ เพราะขั้นตอนมันเยอะ ทั้งนี้ ร่างกฎหมายที่ร่างมา เรายังไม่พอใจ ขอไปแก้ไขนิดหน่อย ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันไหน ขอดูอีกครั้ง แต่จะเร่งให้เร็วที่สุด เมื่อถามว่าจะอยู่ในกรอบเวลาเท่าไหร่ นายสุชาติ กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่กระบวนการทำประชาพิจารณ์ ต่อข้อถามถึงกรณีให้ทำเป็นระเบียบเบื้องต้นไปก่อนจะแก้ไขกฎกระทรวงนายสุชาติ กล่าวว่า กฎกระทรวงกำหนดโทษอะไรไม่ได้

พระถือเงินเกินแสนต้องรายงาน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กฎกระทรวงที่จะบังคับให้วัดถือเงินสดได้ไม่เกิน 1 แสนบาท จะต้องตรวจสอบบัญชีส่วนตัวของพระด้วยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบด้วย ต้องให้พระรายงานเพราะจริงแล้วพระไม่ควรจะต้องถือเงิน แต่เงิน 1แสนบาทสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายที่วางไว้ในวัดได้ ห้ามเกินนั้น ถ้าเกินนั้นต้องเข้าบัญชี ก็จะสามารถรายงานได้ ซึ่งส่วนนี้อยู่มหาเถรสมาคม (มส.) สั่งการไปที่เจ้าคณะหน และเจ้าคณะหนสั่งการไปที่วัดต่างๆ กำชับให้ปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง

พศ.ชี้เคยออกกฎกระทรวงปี’64

ขณะที่นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการปรับระเบียบให้วัดถือเงินสดไม่เกิน 1 แสนบาท ว่ามีกฎกระทรวงออกมาเมื่อปี 2564 วัดต้องจัดทำบัญชีรับจ่ายตามแบบฟอร์มที่ พศ.กำหนด รวมถึงต้องเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อวัด โดยมีผู้มีอำนาจเบิกจ่าย 2 ใน 3 แต่กฎกระทรวงฉบับนี้ไม่มีมาตรการบังคับว่าหากไม่ปฏิบัติแล้วจะทำอย่างไร จึงเกิดมติมหาเถรสมาคม ว่าหากวัดใดไม่ปฏิบัติจะมีมาตรการลงโทษส่วนสาเหตุที่เงินสดต้องไม่เกิน 1 แสนบาท เพราะบางวัดได้รับบริจาคเป็นเงินสด อาจมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงต้องฝากเงินเข้าบัญชี ตนเพิ่งตรวจสอบระบบ E-Donation หรือเงินบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำไว้กับกรมสรรพากร เราได้แจ้งวัดให้ประสานผ่านกรมสรรพากรแล้ว

ชวนใช้คิวอาร์โค้ดโอนเงินทำบุญ

“ประเทศไทยมี 44,000 วัด แต่มีวัดที่เข้าระบบแล้ว 86%จึงขอชวนให้บริจาคผ่านคิวอาร์โค้ดจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีของวัดได้โดยตรง สามารถลดหย่อนภาษีได้โดยไม่ต้องใช้ใบอนุโมทนาบัตร ส่วนการบริจาคด้วยเงินสด เรากำลังหามาตรการตรวจสอบ” นายอินทพร กล่าว

เร่งรัดบทกำหนดโทษพระ-สีกา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตรการเรียกความศรัทธาให้ประชาชนกลับมาได้อย่างไร นายอินทพร กล่าวว่า พระจริงๆ เรามี 3 แสนรูป ก็ไม่อยากแก้ตัวว่าเป็นเรื่องตัวบุคคล คนใดทำกรรมไว้ก็รับผลกรรมของตัวเองไป แต่กรรมนั้นส่งผลกระทบต่อภาพรวม อยากกราบเรียนว่าพระดีๆ ยังมีอีกเยอะ ถ้าเห็นสิ่งใดไม่ชอบมาพากล คงต้องช่วยกันตรวจสอบ เพราะวัดอยู่ในชุมชนอยู่แล้ว ตนคิดว่าพศ.ทั่วประเทศ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เมื่อถามว่า ร่างกฎหมายห้ามพระเสพเมถุนดำเนินการไปถึงไหนนายอินทพร กล่าวว่า ได้ส่งไปให้หลายส่วนที่เกี่ยวข้องแสดงความเห็น พบว่ามีความเห็นที่หลากหลาย โดยเฉพาะบทกำหนดโทษไม่ว่าจะเป็นพระ สีกา หรือผู้ชายก็ดี ที่มีการเสพเมถุนกัน

ยันรวมกรณีอวดอุตริ-ให้น้ำมนต์

นายอินทพร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายกรณีที่ไม่ได้เสพเมถุนอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทำให้คณะสงฆ์ได้รับความเสื่อมเสีย การอวดอุตริ การสัก การอวดอ้างให้น้ำมนต์ ก็อยู่ในบทลงโทษด้วย บางบทลงโทษมีผู้แสดงความเห็นว่าสูงเกินไป เมื่อถามว่า ยังมีพระอีกหลายรูปหรือไม่ที่อยู่ในกระบวนการสอบสวน นายอินทพร กล่าวว่า เท่าที่ทราบมี 11 รูป ที่ได้ข้อมูลมาและได้กำชับให้ มส.ดำเนินการแล้ว