สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ออกแถลงเตือนพระภิกษุให้ระวังภัยเงียบจาก "หญิงสาว" ที่แฝงตัวเข้ามาด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ชี้บางกรณีอาจนำไปสู่การสูญเสียสมณเพศ และสร้างความสั่นคลอนต่อศรัทธาสาธุชน จากกรณี บก.ปปป.นำโทรศัพท์มือถือของ“สีกากอล์ฟ”มาตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่อง ก่อนพบรูปภาพและคลิปลับสัมพันธ์ฉาวกับพระชั้นผู้ใหญ่วัดดัง กว่า 80,000ภาพ ปัจจุบันสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าเป็นพระรูปใดบ้าง ได้แล้ว 8ราย โดยพบหลักฐานการกระทำผิดที่แน่ชัดถึงขั้นปาราชิก จนทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก
ต่อมา นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้โพสต์เตือนภัยพระภิกษุ ถึงกรณีพฤติกรรมของหญิงสาวที่เข้าหาด้วยเป้าหมายแฝง ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความว่า “ตามที่ปรากฏพระเถรานุเถระหลายรูป ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหญิงสาวรายหนึ่ง และบางรูปถึงขั้นต้องสละสมณเพศ ด้วยเหตุแห่งความสัมพันธ์อันไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นที่สะเทือนใจต่อศรัทธาสาธุชน และเป็นบาดแผลต่อพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้ นำถ้อยคำตักเตือนที่เคยกราบนมัสการไว้แล้ว มาทบทวนอีกครั้ง พร้อมปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ ลักษณะพฤติกรรมของสตรีที่พระภิกษุพึงระมัดระวังเป็นพิเศษ มีดังนี้ 1.หญิงสาวซึ่งมีบุคลิกและฐานะดี แต่งกายหรู ขับรถราคาแพง มาปฏิสันถาร ถวายทานหรือเลี้ยงภัตตาหาร ด้วยท่าทีเลื่อมใสอย่างเปิดเผย 2.แสดงความศรัทธาเป็นพิเศษ เช่น ขอถวายตัวเป็นบุตรบุญธรรม เป็นโยมอุปัฏฐากประจำตัว หรือขอติดตามไปถวายงานในที่ต่างๆ 3.เริ่มต้นสนทนาด้วยเรื่องศาสนา หรือเรื่องทั่วไป เพื่อให้พระรู้สึกสบายใจและลดความระวัง 4.อ้างความจำเป็นเพื่อขอช่องทางสื่อสาร เช่น ขอไอดีไลน์เพื่อวิดีโอคอล
5.ใช้การสนทนาอย่างใกล้ชิด ตีสนิทจนพระรู้สึกไว้วางใจ และคุยได้ทุกเรื่อง 6. อ้างคำทำนาย หรืออดีตชาติ ว่าเคยเป็นคู่ชีวิตกัน เพื่อให้พระเกิดความเชื่อและยึดมั่นในตัวหญิงนั้น 7.มอบทรัพย์หรือสิ่งของมีค่าเป็นจำนวนมาก เพื่อให้พระตายใจว่าตนมีฐานะมั่นคง ก่อนจะหาทางถอนกลับในภายหลัง 8.ชักชวนให้พระร่วมกิจกรรมทางเพศผ่านวิดีโอคอล หรือเสนอให้นัดพบเป็นการส่วนตัว หากถึงขั้นนี้ ขอให้พระท่านรีบหยุดการติดต่อในทันที
อีกทั้ง“พึงสังวรไว้ว่าหญิงลักษณะเช่นนี้ ไม่ได้มาด้วยเจตนาบริสุทธิ์เช่นญาติโยมทั่วไป หากแต่เป็นบุคคลอันตรายที่พระพึงหลีกให้ไกล หากไม่สามารถตัดการติดต่อได้ทัน ท่านอาจตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากพระเถระที่เป็นข่าว และอาจต้องสละสมณเพศต่อไป พระภิกษุผู้หลงใหลในความงาม เสียงอ่อนหวาน หรือความอ่อนโยนของหญิงบางราย มักตกเป็นเหยื่อของกลลวง เสียทรัพย์ เสียศักดิ์ศรี และสุดท้ายเสียสมณเพศ จึงขอเตือนภัยนี้อีกครั้ง เพื่อเป็นเกราะคุ้มครองแก่ท่านทั้งหลาย”ทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ ปฏิบัติตามพระพุทโธวาทที่พระพุทธองค์ประทานไว้ กรณีการปฏิบัติต่อสตรีเพศ ซึ่งมีปรากฏในมหาปรินิพพานสูตรว่า ไม่เห็นย่อมประเสริฐ หากจำเป็นต้องเห็นก็ไม่ควรพูด หากจำเป็นต้องพูด หรือเจรจาด้วย พึงพูดหรือเจรจา อย่างมีสติและสำรวมระวัง ขอให้ท่านทั้งหลายตระหนักในภาระของสมณะ ยึดมั่นในพระธรรมวินัยและดำรงตนให้เป็นเนื้อนาบุญที่มั่นคงแก่สังคมต่อไป
สำหรับรายชื่อ 10 พระชั้นผู้ใหญ่ที่ลาสิกขากรณีมีข่าวพัวพันสีกากอล์ฟ มีดังนี้ 1.พระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ กรุงเทพมหานคร สึกวันที่ 29มิ.ย.68 2.พระครูปลัดสุรพล อิทธิเตโช อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร จังหวัดพิษณุโลก สึกวันที่ 5ก.ค.68 3.พระเทพวชิรธีราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย วรวิหาร จังหวัดสระบุรี สึกวันที่ 9ก.ค. 68 4.พระเทพวชิรธีรคุณ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร สึกวันที่ 9ก.ค.68 5.พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ อดีตพระลูกวัด วัดใหม่ยายแป้น กรุงเทพมหานคร สึกวันที่ 9ก.ค.68 6.พระครูสิริวิริยธาดา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา สึกวันที่10ก.ค.68 7.พระปริยัติธาดา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร กรุงเทพมหานคร สึกวันที่ 14ก.ค.68 8.พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สึกวันที่ 14ก.ค.68 9.พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จังหวัดพิจิตร สึกวันที่ 14 ก.ค. 68 10.พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก สึกวันที่ 16กรกฎาคม2568
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี