‘บิ๊กเล็ก’ไม่นิ่ง
ฮึ่ม!ผลสอบชัดระเบิดใหม่
‘ทบ.’ปูนบำเหน็จ3ทหาร
“อิ๊งค์-บิ๊กเล็ก” บินด่วน! เยี่ยมทหารเหยียบระเบิดช่องบก รมช.กลาโหม ส่งมอบเงินบำรุงขวัญพระราชทาน รับเป็นไปได้เป็น “ระเบิดใหม่”ไม่นิ่ง ขอรอผลตรวจสอบก่อนไม่เกิน3วัน นายกฯโพสต์แจงได้รับมอบหมายจากครม.ให้เป็นตัวแทนเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว3ทหารบาดเจ็บ ยกย่องเสียสละทำงานเพื่อชาติ รับปากรบ.จะไม่ให้เกิดเหตุกระทบขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ ขณะทบ.ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น เลื่อนยศ พลทหารขาขาด พร้อมดูแลช่วยเหลือกำลังพลที่บาดเจ็บ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ทภ.2เข้าพื้นที่ช่องบก เก็บหลักฐานเพิ่ม เผยไทม์ไลน์ มิ.ย.-ก.ค.68 พบระเบิดสังหารบุคคลหลายจุด ชี้เป็นได้ทั้งของเก่า-ฝังใหม่ รอหลักฐานชี้ชัด
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เดินทางออกจากกองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมทหารชุดลาดตระเวน ที่ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนบริเวณเนิน 481 พิกัด WA 220 861 ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยเป็นภารกิจด่วนจากเดิมช่วงเช้าแจ้งเข้าปฎิบัติหน้าที่ที่กระทรวงวัฒนธรรม
‘อิ๊งค์’ขอร่วมคณะ‘บิ๊กเล็ก’เยี่ยม3ทหาร
ก่อนเดินทางพล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า วันนี้กองทัพบกมอบเงินช่วยเหลือให้ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย น.ส.แพทองธารทราบเรื่องจึงขอร่วมคณะไปด้วย และจะมอบเงินช่วยเหลือในส่วนของน.ส.แพทองธาร โดยนายทหารที่ขาขาด จะได้รับ เงินบำรุงขวัญพระราชทานประมาณ 50,000 บาท และเงินช่วยเหลือประมาณ 900,000 บาท จากนี้จะพิจารณาบรรจุญาติ เข้ารับราชการทหารในส่วนกองทัพบก ซึ่งเบื้องต้นพี่สาวของนายทหารนายดังกล่าว แสดงความประสงค์จะเข้ารับราชการ ส่วนตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขาขาดจะได้รับเงินดูแลประมาณเดือนละ 15,600 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คนจะได้รับเงินประมาณ 10,000 บาท
รอผลตรวจระเบิดถ้าวางใหม่ไม่เฉยแน่
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบวัตถุระเบิดเป็นของใหม่หรือของเก่านั้น พล.อ.ณัฐพลเผยว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และตน ในฐานะผอ.ศบ.ทก. ไม่สามารถพูดตามความเชื่อได้ต้องดูตามพยานหลักฐาน แต่ยอมรับว่าในพื้นที่ปัจจุบันยังมีระเบิดเก่าอยู่ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นระเบิดใหม่ ยืนยันว่าจะไม่หยุดนิ่ง เพราะทั้ง 2 ประเทศอยู่ในอนุสัญญาอนุสัญญาออตตาวา หากเป็นระเบิดใหม่ก็จะถือว่าผิดอนุสัญญาดังกล่าว
คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบเบื้องต้น 2-3 วัน เรื่องนี้จะเอาความเชื่อและความคิดพูดก่อนไม่ได้ หากพูดไปต้องมีหลักฐาน ซึ่งตนเร่งเรื่องการตรวจสอบ ให้รอฟังผลก่อน
สำหรับความเป็นไปได้หรือไม่ที่ระเบิดดังกล่าวจะเป็นของใหม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวยอมรับว่า เป็นไปได้ เพราะก็มีข่าวเรื่องนี้มาเหมือนกัน แต่จากข้อมูลด้านการข่าว ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ต้องรอพิสูจน์จากหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมยอมรับว่าหากเป็นระเบิดใหม่จะมีเทคโนโลยีที่ไม่สามารถตรวจพบได้ อย่างเช่น ระเบิดพลาสติก ในเรื่องนี้ ตนสั่งแม่ทัพภาคที่ 2 กำชับผู้ปฎิบัติการในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวังเข้มงวดมากขึ้น
‘อิ๊งค์’แจงครม.มอบให้เป็นตัวแทนรบ.
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียชี้แจงถึงการลงพื้นที่จ.อุบลราชธานีวันนี้ว่า ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เป็นตัวแทน ร่วมคณะกับรมช.กลาโหม เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจทหารทั้ง 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นให้กำลังพล ขอส่งกำลังใจอย่างสุดหัวใจถึง พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ส.อ.ปฏิพัทธิ์ ศรีลาศักดิ์ และ พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ เป็นสิ่งที่เราคนไทยต้องยกย่องเป็นแบบอย่าง โดยทุกท่านได้รับกำลังใจอย่างดีจากครอบครัว และรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้ชาติ
ยกย่อง3ทหาร‘เสียสละเพื่อชาติ’
น.ส.แพทองธารระบุว่า ขอแสดงความเคารพนับถือในความเสียสละที่มีต่อประเทศชาติของกำลังพลทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประชาชน และทราบว่ากระทรวงกลาโหมกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงเก็บกู้กับระเบิดในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ที่สำคัญจะมีมาตรการเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เต็มที่ ขอส่งกำลังใจให้กับกำลังพลทุกๆ ท่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อน.ส.แพทองธาร และพล.อ.ณัฐพล เดินทางถึงโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี น.ส.แพทองธารได้สอบถามอาการพลทหารธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ และขอให้กำลังใจแม่ของทหารที่ได้รับบาดเจ็บด้วย จากนั้น น.ส.แพทองธารได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารอีก 2 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยน.ส.แพทองธาร ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจกับทหารทั้ง 3 คน พร้อมกล่าวว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เสียสละทำงานเพื่อประเทศชาติ
ห่วงเพื่อนทหารในทีมที่ยังอยู่ในพื้นที่
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า ทหารทั้งสามท่านกำลังใจดี และตนได้ถามไปว่ายังมีอะไรที่เป็นห่วงหรือไม่ ซึ่งเขาก็เป็นห่วงทหารในทีมด้วยกันที่ยังอยู่ตรงชายแดน และตนก็ถามว่าอยากได้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เขาบอกว่าอยากให้ส่งน้ำไปเพิ่มเยอะๆ เพราะอากาศร้อน ดื่มน้ำกันเยอะ แต่ความจริงแล้วแน่นอนว่าทางกองทัพดูแลดีอยู่แล้ว เราก็เพิ่มเติมตรงนี้ไปให้มากขึ้น ส่วนครอบครัวผู้บาดเจ็บทั้งสามท่านก็มีกำลังใจที่ดี และภูมิใจน้องๆที่รับใช้ชาติ เราได้ยินแล้วก็รู้สึกดีใจ รู้สึกว่าในวันที่เขามีความทุกข์ ก็ยังมีกำลังใจข้าง ๆ เป็นกำลังใจที่ดีที่เข้มแข็งด้วย นอกจากร่างกายที่ต้องหายเร็วแล้ว จิตใจก็ต้องดูแลอย่างดีเช่นกัน
ทบ.ปูนบำเหน็จพิเศษเลื่อนยศ
ด้านกองประชาสัมพันธ์ กองทัพบก (ทบ.)แถลงว่ จากเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี วันที่ 16 กรกฎาคม จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน, พลทหาร ณัฐวุฒิ ศรีเข้ม และ สิบเอก ปฏิพัทธ์ ศรีลาภักดิ์ ซึ่งปัจจุบันอาการปลอดภัย อยู่ภายใต้การดูแลรักษาจากทีมแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์อย่างใกล้ชิด
พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.ห่วงใยกำลังพลทั้ง 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาอธิปไตยของชาติบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากส่งตัวเข้ารักษาอย่างดีที่สุดแล้ว ผบ.ทบ.ยังมอบหมายให้กรมกำลังพลทหารบกตรวจสอบ และดูแลสิทธิสวัสดิการให้กำลังพลทั้ง 3 นายทันที ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้ว ดังนี้
พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน บาดเจ็บข้อเท้าซ้ายขาด ได้รับปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และเลื่อนยศเป็นสิบเอก พร้อมเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม ประกอบด้วย เงินพระราชทาน กรณีพิการทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ของทหารกองประจำการ เงินบำรุงขวัญ, สินไหมทดแทนภัยสงคราม และเงินช่วยเหลือมูลนิธิสายใจไทย รวม 964,057 บาท หลังรักษาหายดี ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ จะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 15,600 บาท และเงินช่วยเหลืออื่นประมาณเดือนละ 16,200 บาท รวมทั้งได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้น 2 ประเภท 1 พร้อมบัตรทหารผ่านศึก ชั้น 1 ได้รับเงินผดุงเกียรติและเงินเลี้ยงชีพรายเดือน ตลอดจนได้รับสิทธิบรรจุทายาททดแทนเป็นนายทหารชั้นประทวน 1 นาย
ส่วนสิบเอกปฏิพัทธ์ ศรีลาภักดิ์ และพลทหาร ณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีอาการแน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ได้รับเงินบำรุงขวัญ เนื่องจากบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการเบื้องต้นรายละ 10,000 บาท พร้อมเงินช่วยเหลืออื่นจากกองทัพบก
รบ.พร้อมตอบโต้เขมรถ้าพบวางกับระเบิดใหม่
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยพล.ร.ต.สุรสันต์สรุปผลประชุม ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง ถึงเหตุพลทหาร 3 นายเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีว่า ทหารทั้ง 3 นาย อาการดีขึ้น และมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม กองทัพได้ดูแลให้ความช่วยเหลือปูนบำเหน็จให้กำลังพลอย่างเต็มที่ตามระเบียบของกองทัพ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิด ปัจจุบันกองทัพบก ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (นปท.) เข้าพื้นที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อเก็บหลักฐานและนำมาวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด คาดว่าใช้เวลา 2-3 วันจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเรื่องของชนิด และห้วงเวลาการวางทุ่นระเบิดว่าเป็นการวางขึ้นมาใหม่หรือเป็นของเดิม ซึ่งจะมีการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ จะเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้และเก็บสะสมทุ่นระเบิด ทั้งไทยและกัมพูชา ถือเป็นประเทศภาคีอยู่ในอนุสัญญาดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2542
“รัฐบาลไทยขอย้ำว่าถ้าตรวจพบเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ฝ่ายไทยจะไม่เพิกเฉย และถ้าพบมีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ทางไทยก็จะดำเนินการและตอบโต้อย่างชัดเจนแน่นอน”พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าว
กต.พร้อมประท้วงเขมร-รอผลสอบผิดMOU43
ด้าน นางมาระตีแถลงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ชายแดนในมิติการต่างประเทศว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่าง ๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มเติม มุ่งปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เน้นย้ำข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย ถ้ากัมพูชาจริงใจจัดการปัญหาดังกล่าวตามที่ประกาศไว้ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานีนั้น นางมาระตี กล่าวว่า ระหว่างที่กองทัพบกดำเนินการตรวจสอบ ว่าเป็นทุ่นระเบิดของเก่าหรือของใหม่ กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อทราบผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากกองทัพแล้ว จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งการประท้วงโดยตรงกับฝ่ายกัมพูชา ตามกรอบทวิภาคีและมาตรการอื่นตามความเหมาะสม โดยเฉพาะหากพบเป็นการละเมิด MOU 2543 หรือละเมิดอธิปไตยของไทย
ชุดกู้ระเบิดเก็บหลักฐานเพิ่ม
ความคืบหน้าการเก็บหลักฐานหลังเกิดเหตุพลทหารจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก และประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เช้านี้กองทัพภาคที่ 2 ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ช่องบก จุดเกิดเหตุ เก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาพิสูจน์ทราบ
โดยก่อนหน้านี้ กองทัพภาคที่ 2 ส่งหมวดก่อสร้างทั่วไปที่ 2 กองพันทหารช่างที่ 202 กรมทหารช่างที่ 2 ฉก.1 ช่องบก (ช.2 พัน.202) อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ในส่วนชุดปฏิบัติงานก่อสร้างเส้นทางยุทธวิธีออกเคลียร์พื้นที่สร้างเส้นทางลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2568 ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดต่างๆ ดังนี้ วันที่ 10 มิ.ย.2568 ตรวจพบกระสุน ค.60 มม. และ ทุ่นระเบิดสั่งหารบุคคล POMZ วันที่ 12 มิ.ย.2568 ตรวจพบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล M 14 ตรวจ(ตรงข้ามฐานฤาชา) วันที่ 19 มิย.68 ตรวจพบกระสุน ค.60 มม. และกระสุน ค.60 มม. และ ระเบิดสังหารบุคคล M 16 วันที่ 20 มิ.ย.2568 ตรวจพบ กระสุน RPG วันที่ 25 มิ.ย.2568 ตรวจพบ ลูกระเบิด M203 วันที่ 8 ก.ค.2568 ตรวจพบ แป้นกดระเบิดดักรถถัง TM 57 วันที่ 8 ก.ค.2568 ตรวจพบ แป้นจุดฉนวน TM 57 วันที่ 8 ก.ค.2568 ตรวจพบ กระสุน ค.60 มม วันที่ 15 ก.ค.2568 ตรวจพบระเบิดสังหารบุคคล POMZ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในแผนที่จะเป็นพื้นที่สีเขียว แต่กองทัพภาคที่ 2 ยังไม่ทิ้งประเด็นว่ามีวัตถุระเบิดเก่าของเขมรแดงฝังอยู่ เพราะเป็นพื้นที่สู้รบเดิม แต่เป็นไปได้เช่นกันจะเป็นระเบิดที่ฝังใหม่ ต้องรอผลพิสูจน์ทราบต่อไป
คปท.-ศปปส.บุกกต.จี้ประท้วงเขมร
ขณะที่นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยมวลชนของคปท. กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม ร่วมกับประชาชนที่ห่วงใยบ้านเมือง เดินขบวนไปชุมนุมอย่างสงบบริเวณด้านหน้ากระทรวงการต่างประเทศ และปราศรัยโดยใช้เครื่องขยายเสียง เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ เร่งดำเนินการกรณีพลทหารไทย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยผู้ปราศรัยแสดงความไม่พอใจต่อขั้นตอนที่จำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงของพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุ การดำเนินการของรักษาราชการแทนนายกฯที่ถูกมองว่านิ่งเฉย รวมถึงเรียกร้องให้กระทรวงฯเรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มาประท้วง พร้อมระบุว่า จะมายื่นหนังสือและข้อทักท้วงกรณีนี้กับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการต่อกรณีดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี