‘บิ๊กเต่า’สยบข่าว‘พระฉาว’รูปใหม่
ไม่ใช่สมเด็จในกทม.
แต่เป็นพระดังในต่างจังหวัด
พบเส้นเงินโอนสีการ้อยล้าน
มีสัมพันธ์ลึกซึ้งนานกว่า15ปี
กลายเป็นเศรษฐินีระดับจว.
“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือสอยพระผู้ใหญ่ในกทม. แย้มคดีใหม่ห่มเหลืองแถวภาคกลางพบข้อมูลเส้นเงินโอนให้สีกา เปย์หนักซื้อบ้าน รถ ที่ดิน จนสีกากลายเป็นเศรษฐินี เชื่อมโยงพระผู้ใกล้ชิดอีกหลายรูป ขณะที่เงินวัดนับร้อยล้านกลับนำไปสร้างศาสนสถานไม่เสร็จสิ้น ด้านสำนักงานพระพุทธฯกำชับเจ้าอาวาสทั่วประเทศเร่งจัดทำบัญชีวัดให้เกิดความโปร่งใสตามมติมหาเถรฯ
วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบพระสงฆ์ชั้นสมณศักดิ์สูงรูปหนึ่ง ซึ่งถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมพัวพันกับสีกาและส่อทุจริตเงินวัดกว่า 100 ล้านบาทโดยย้ำชัดเจนว่า เป็นคนละคดีกับสีกากอล์ฟ แต่มีความน่ากังวลไม่แพ้กัน เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามานาน และขณะนี้เริ่มมีหลักฐานชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สามารถลงรายละเอียดได้แล้ว
“พระสงฆ์รูปนี้มียศสูงกว่าพระในคดีสีกากอล์ฟ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับระดับสมณศักดิ์ หรือยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่ระดับใด การตรวจสอบทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบพฤติกรรมน่าสงสัยหลายประการ อาทิ การดึงเงินจากวัดหลายแห่งรวมกัน นับร้อยล้านบาทเพื่อนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่ที่ดำเนินการมานานกว่า 10 ปีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ นอกจากนี้เงินบางส่วนยังถูกโอนไปเพื่อดูแลผู้หญิง และนำไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งถือเป็นการเข้าข่ายความผิดทั้งในเรื่องผู้หญิงและเรื่องเงิน แม้จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดบัญชีปลายทาง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงการดำเนินการของขั้นตอนทางกฎหมายด้วยว่า เรื่องตำรวจไม่มีอำนาจบังคับให้พระสงฆ์รูปนี้สึกได้โดยตรง แต่จะนำหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมดไปแสดงให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์พิจารณาเพื่อให้ท่านไตร่ตรองเอง เพราะถ้าพระไม่มีจริยวัตรแล้วก็ไม่ควรกราบไหว้ แต่ยืนยันว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและจะดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่เร่งรีบ
นอกจากนี้คดีดังกล่าวนี้ยังมีการเชื่อมโยงถึงพระสงฆ์อีกหลายรูปโดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดกับพระรูปหลัก ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลและเตรียมรายงานเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและพระธรรมวินัยต่อไป
ยันไม่ใช่ “พระสมเด็จ” ใน กทม.
รอง ผบช.ก.ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูปในกรุงเทพฯโดยยืนยันว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับพระผู้ใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพระผู้ใหญ่ที่อยู่ในต่างจังหวัด ตามที่ได้รับข้อมูลมาพบเกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่ที่สูงกว่าชั้นเทพ ซึ่งอาจจะเป็นชั้นธรรม ชั้นพรหม ชั้นสมเด็จ แต่มีคนนำไปตีความเลยเถิด แต่ในต่างจังหวัดจะรู้ว่าเป็นพระที่มียศขนาดไหน
“พระที่ถูกร้องเรียนนั้นก็เป็นพระที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับจังหวัดเกี่ยวกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสม นำเงินบริจาคของญาติโยมสร้างพทุธสถานหลายปีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นจำนวนเงินหลายร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม กังวลว่าสังคมจะเกิดความสับสน และขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับพระที่โลกออนไลน์กำลังพูดถึง” รอง ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังจัดการพระไม่ดีเพื่อให้พระดีๆ ได้อยู่ทำหน้าที่เป็นเสาหลักให้พระพุทธศาสนา ขอให้สื่อทำงานอยู่บนความจริง อย่าตีความไปมากมายจนเลยเถิดไป ส่วนที่เรื่องดังกล่าวมีเรื่องสีกาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ขอให้ดดำเนินการเป็นขั้น เป็นตอนโดยจะรายงานกับผู้บังคับบัญชา และน่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้
“ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะนั้น ขณะนี้มีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีสีกากอล์ฟ อีกหรือไม่” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
เปย์สีกาจนเป็นเศรษฐินีจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในข่าวสดและมติชนออนไลน์ได้ระบุว่า มีรายงานข่าวแจ้งว่าพระรูปดังกล่าวที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กำลังตรวจสอบอยู่นั้น เป็นพระราชาคณะระดับชั้นธรรม มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง หรือภาคกลางตอนบนโดยพบพฤติกรรมต้องสงสัยว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกาถึงขั้นใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกันในลักษณะสามีภรรยามานานกว่า 15 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2552 สมัยที่พระรูปนี้ยังเป็นพระราชาคณะชั้นราช
แหล่งข่าวระบุว่า พระรูปนี้ได้ส่งเสียเลี้ยงดูสีกาคนดังกล่าวอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งให้เงินซื้อรถ ซื้อบ้านหรู ซื้อที่ดิน และทรัพย์สินอีกมากมาย จนสีกาผู้นี้กลายเป็น เศรษฐินีระดับจังหวัด มีหน้ามีตาในสังคม ซึ่งชาวบ้านหรือคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ทราบความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับนี้ เนื่องจากสีกาคนดังกล่าวมักอ้างว่ามีสามีทำงานอยู่ต่างประเทศคอยส่งเงินให้ใช้จ่าย
นอกจากประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วเจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า พระรูปนี้เคยดึงเงินจากวัดหลายแห่งรวมกันนับร้อยล้านบาทเพื่อนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่ที่ดำเนินการมากว่า 10 ปีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ และเงินบางส่วนยังถูกโอนไปให้สีกาหรือบุคคลใกล้ชิด รวมถึงนำไปใช้จ่ายในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น ในรายงานของข่าวสดและมติชนออนไลน์ ยังเผยด้วยว่า จากการตรวจสอบยังพบว่าพระรูปนี้ตัวสีกากอล์ฟ และอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เคยถูกพูดพาดพิงถึงในคลิปวิดีโอรูปหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งถูกบันทึกไว้ขณะที่สีกากอล์ฟและอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรโทรพูดคุยเจรจาปัญหาที่เกิดจากความเข้าใจผิด โดยตามคลิปเสียงดังกล่าวมีการพูดพาดพิงถึงเจ้าคณะจังหวัดรูปนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปมที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลาย
พศ.ย้ำเร่งจัดทำบัญชีวัด
ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) วันเดียวกันนี้ได้ออกมาย้ำเตือนเจ้าอาวาสวัดทุกแห่งทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคม ที่ 495/2568 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการจัดการเงินและทรัพย์สินของวัด เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
ใจความสำคัญของมติฯ คือการกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับการ เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด ซึ่งระบุให้ใช้ชื่อบัญชีว่า “เงินของวัด” หรือ “วัด” เท่านั้น ห้ามมีชื่อบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และต้องเปิดบัญชีกับธนาคารที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกับวัดเท่านั้น นอกจากนี้ การเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดจะต้องกระทำโดยผู้มีอำนาจลงนามอย่างน้อยสามรูป/คน โดยมีเจ้าอาวาสเป็นหนึ่งในผู้ลงนามเสมอ และใช้เพียงใบถอนเงินของธนาคารพร้อมสมุดบัญชีเท่านั้น
นอกจากเรื่องบัญชีธนาคารแล้ว ทุกวัดยังต้อง จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด บันทึกทุกรายการรับและจ่าย สรุปเป็นรายเดือน และรวบรวมส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป ควบคู่ไปกับการจัดทำรายงานเงินคงเหลือของวัดทุกเดือน ทั้งเงินสดและเงินฝากธนาคาร
พศ. ยังสนับสนุนให้วัดต่างๆ พิจารณาใช้ ระบบบัญชีมาตรฐานสำหรับวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมถึงการนำ ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับบริจาค
ทั้งนี้ เจ้าอาวาสทุกรูปต้องปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามอาจถือเป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการและมีโทษได้ โดยเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์มีหน้าที่กำกับดูแลให้วัดในเขตปกครองบริหารจัดการศาสนสมบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะเข้ามามีบทบาทในการให้คำแนะนำ และพร้อมประสานงานกับหน่วยงานตรวจสอบต่างๆ เพื่อความโปร่งใสสูงสุดในการบริหารกิจการของพระพุทธศาสนา
คืนที่ 2สีกากอล์ฟยังเครียด
ทางด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีของ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือ “สีกากอล์ฟ” ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวในทัณฑสถานหญิงกลางเป็นคืนที่ 2 ว่า น.ส.วิลาวัลย์ ยังคงอยู่ในห้องกักโรค ซึ่งเป็นมาตรการปกติสำหรับผู้ต้องขังใหม่ โดยจะต้องอยู่ในห้องกักโรคเป็นระยะเวลา 5 วัน
นางกนกวรรณระบุว่า อาหารเช้าวันนี้เป็นแกงจืดหมูสับวุ้นเส้น ซึ่ง น.ส.วิลาวัลย์สามารถรับประทานได้ตามปกติ การนอนหลับพักผ่อนดีขึ้น และพูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องขังได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสีหน้าเครียดเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าทำใจได้ดีขึ้น
ในส่วนของการเข้าเยี่ยมนั้น เนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทนายความยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ จะต้องเข้าพบตามวันและเวลาราชการที่กำหนด ส่วนกิจกรรมภายในเรือนจำฯ ในช่วงกักโรค 5 วัน น.ส.วิลาวัลย์ยังไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ แต่มีเพื่อนผู้ต้องขังคอยพูดคุย เพื่อช่วยลดความเครียดได้บ้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเมื่อพ้นกำหนดช่วงเวลาการกักโรคแล้วจะถูกย้ายไปควบคุมตัวอยู่ในแดนระหว่างพิจารณาคดีเช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น ซึ่งเป็นไปได้ว่า น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อาจจะได้พบกับ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือ “สีกาเก็น” ซึ่งถูกคุมขังอยู่ก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
รองโฆษกราชทัณฑ์ เผย’สีกากอล์ฟ’นอนคุกคืนที่ 2 นอนหลับดีขึ้นแต่ยังดูเครียด กินได้ปกติ วันหยุดไม่มีทนายเข้าพบ อาจเจอ’สีกาเก็น’แดนระหว่างพิจารณาคดี สำนักพุทธฯ สั่งเน้นย้ำเจ้าอาวาสทุกวัด เร่งดำเนินการตามมติ “มหาเถรสมาคม” เรื่องการเปิดบัญชีธนาคารเงินฝากวัด และการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี