ฤทธิ์‘พายุวิภา’
ฝนถล่มภาคเหนือ-อีสานอ่วม
น่านสะพานพัง-ถนนขาด
ปภ.สั่งอพยพชาวบ้านด่วน
เชียงราย5อำเภอจมบาดาล
พะเยาเจอน้ำป่าไหลหลาก
กรมอุตุฯ เตือนพายุวิภา ส่งผลให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ด้าน “ภูมิธรรม” ย้ำ ปภ.พร้อม รับมือ มั่นใจระบบ Cell Broadcast แจ้งเตือนประชาชน ทันที ขณะที่ อ.ปัว จ.น่าน สะพานข้ามแม่น้ำพังถล่ม ส่วนเชียงราย ฝนหนักกระทบหลายอำเภอ ด้าน จ.พะเยา มวลน้ำทะลักจากดอยผาช้าง เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง พายุวิภา และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 14 (200/2568) ว่าพายุโซนร้อนวิภา ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยปกคลุมบริเวณแขวงเชียงขวาง ประเทศลาว ห่างจาก จ.น่าน ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 180 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงต่อไป โดยจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนในระยะต่อไป สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยกำลังแรง
จากอิทธิพลของพายุวิภา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้ช่วงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.อุทัยธานี และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก จ.นครนายก จันทบุรี และตราด
สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งช่วงดังกล่าว
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ หรือ บกปภ.ช.เพื่อติดตามสถานการณ์พายุวิภา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ 30 จังหวัด ที่จะได้รับผลกระทบ โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ตามลำน้ำมีน้ำขึ้นต่อเนื่อง บางแห่งมีน้ำล้นตลิ่ง แต่เราทราบล่วงหน้า เนื่องจากกรมอุตุฯ รายงานว่ามีโอกาสที่ฝนจะตกหนัก จึงสั่งการปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้รับทราบแล้ว โดยมีการเตรียมการ และตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด ขณะเดียวกันได้มอบให้จังหวัดต่างๆ ทำศูนย์ป้องกันภัย 24 ชั่วโมง พร้อมย้ำว่า สิ่งสำคัญคือการแจ้งติดตามและประสานหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งส่งเครื่องจักรกลใหญ่ไปจังหวัดที่คาดว่าจะมีปัญหา นอกจากนี้ได้ประสานกระทรวงกลาโหม และหน่วยทหาร เตรียมพร้อมนำเครื่องบินขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง สถานการณ์ขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นน้ำหลากจากพายุที่พาดผ่านเข้าไปทางตอนเหนือของประเทศไทย
ทั้งนี้ ระหว่างที่เข้ามาประเทศไทยพายุก็อ่อนตัวลง ทำให้อยู่ในระดับดีเปรสชั่น ซึ่งถือว่าเบาลงมาก ฉะนั้นยืนยันว่า ขณะนี้เราได้ติดตามและเฝ้าระวังเรียบร้อยแล้ว ส่วนจังหวัดที่น่าเป็นห่วงเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ป่าสูง จึงแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ริมเขา ริมเขื่อน หรือพื้นที่ราบลุ่มให้เฝ้าระวัง หากเห็นอะไรเกิดขึ้นให้รีบแจ้ง ยืนยันว่าความช่วยเหลือขณะนี้มีความพร้อมและระบบแจ้งเตือนผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือ Cell Broadcast ก็ไม่มีปัญหา เพราะเท่าที่ดูมีการส่งเตือนภัยได้อย่างดี
ที่ จ.น่าน วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดน้ำท่วมและมีกระแสน้ำเชี่ยวรุนแรง ได้ส่งผลให้สะพานข้ามแม่น้ำปัว บ้านท่าล้อ ต.แงง อ.ปัว จ.น่าน พังถล่ม ถนนถูกตัดขาด และรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผวจ.น่าน ได้แจ้งเตือนประชาชน ว่าสถานการณ์แม่น้ำน่าน มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องใกล้ล้นตลิ่ง จะส่งผลกระทบพื้นที่ริมแม่น้ำน่าน ที่ อ.เมือง (ต.ในเวียง ต.คู่ใต้ ต.กองควาย ต.บ่อ) อ.ภูเพียง (ต.เมืองจัง ต.ฝายแก้ว ต.ท่าน้าว ต.ม่วงติ๊ด ต.นาปัง) และ อ.เวียงสา (ต.น้ำปั้ว ต.ตาลชุม ต.ไหล่น่าน ต.กลางเวียง ต.ส้าน ต.ขึ่ง) ขอให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน่าน ยกของขึ้นที่สูง
ส่วน ปภ.จังหวัดน่าน แจ้งระดับน้ำแม่น้ำน่าน อ.เมือง อ.ภูเพียง เริ่มล้นตลิ่ง ขอให้ผู้ที่อาศัยริมน้ำน่าน ต.ในเวียง ต.ดู่ใต้ ต.กองควาย อ.เมือง , ต.ท่าน้าว ต.นาปัง ต.ม่วงตึ๊ด ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง อพยพไปยังศูนย์พักพิงในพื้นที่ทันที เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ไปยังที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และสามารถแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” ด้านนายวิชาญ เกษเพชร ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) น่าน เขต 1 ออกประกาศ เรื่อง การหยุดเรียนเป็นกรณีพิเศษ (อุทกภัย) มีใจความว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องใน จ.น่าน จากผลกระทบพายุโซนร้อนวิภา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ต่างๆ นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับผลกระทบในการคมนาคม ไม่สะดวกและแนวโน้มไม่ปลอดภัย ส่งผลให้ไม่สามารถเรียนหรือจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงขอประกาศให้สถานศึกษาทุกแห่งในสังกัด ปิดสถานศึกษาเป็นกรณีพิเศษ (อุทกภัย) เป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2568 หากมีการเปลี่ยนแปลงจะประกาศแจ้งให้ทราบผ่านทางกลุ่มไลน์ของกลุ่มต่างๆ ของ สพป.น่าน เขต 1 เพื่อให้ทุกโรงเรียนได้ทราบโดยทั่วกัน
ขณะที่ จ.เชียงราย สถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากฝนตกหนักต่อเนื่อง พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ 8 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 100 ครัวเรือน โดยพื้นที่ซึ่งมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด ได้แก่ อ.เวียงแก่น อ.เทิง อ.พญาเม็งราย อ.ขุนตาล อ.ป่าแดด อ.เวียงชัย อ.แม่สรวย อ.เมือง อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.เชียงของ อ.พาน อ.ดอยหลวง อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.เชียงแสน อ.แม่ลาว และ อ.แม่ฟ้าหลวง สำหรับความเสียหายต่างๆ อยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของสิ่งสาธารณประโยชน์ พื้นที่การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งแนวโน้มสถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน ตำรวจ สภ.เทิง แจ้งปิดการจราจรถนนสายเทิง-เชียงราย ด้านหน้า สภ.เทิง ภายหลังเกิดน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และพบว่ามีรถยนต์หลายคันเครื่องยนต์ดับกลางทาง ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดฝนตกหนักจนน้ำป่าจากดอยในพื้นที่ ต.ตับเต่า ไหลลงสู่ลำน้ำหงาว ล้นตลิ่งและไหลท่วมพื้นที่ด่านล่าง รวมถึงถนนเส้นทางดังกล่าว ส่วน รพ.เทิง แจ้งว่าขณะนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ของ รพ.จน ไม่สามารถสัญจรได้ โดยระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการให้บริการจึงจำเป็นต้องปิดให้บริการ ยกเว้นกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากใน อ.ปง มีต้นน้ำจากดอยผาช้าง ได้ไหลลงสู่ลำน้ำควร ก่อนทะลักเข้าท่วมพื้นที่เทศบาล ต.ปง อ.ปง จ.พะเยา มีบ้านเรือน ถนน และพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง บางจุดระดับน้ำสูงจนรถไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้ว พร้อมประกาศเตือนให้ยกของขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา สถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วง เนื่องจากบริเวณร่องช้าง บ้านปิน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดฝนตกหนัก โดยน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าพื้นที่ลุ่มที่อยู่ใกล้เคียง ชาวบ้านเริ่มเก็บข้าวของขึ้นที่สูง นำกระสอบทรายมากั้นหน้าบ้านเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี