ตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB จับสองสาวแสบ หลอกเช่ารถฟอร์จูนเนอร์ ติดแจมเมอร์ตัดสัญญาณ GPS หวังส่งขายข้ามแดน

วันนี้ (24 ก.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.  พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2  บก.ทล. พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สวญ.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. พ.ต.ต.ตุลา สว่างรัตน์ สว.ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล.นำกำลังจับกุม น.ส.สุภาพร อายุ 38 ปี (ผู้ขับขี่) และ น.ส.เขมนันท์ อายุ 39 ปี (ผู้โดยสาร) ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลาง 1.รถยนต์ SUV ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนจังหวัดภูเก็ต พร้อมกุญแจรถ 2.อุปกรณ์ตัดสัญญาณ GPS (Jammer) เสียบอยู่กับแบตเตอรี่สำรอง 3.แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ป้ายแดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร 2 แผ่น และ 4.สมุดคู่มือประจำรถใช้กับเครื่องหมายพิเศษ (เล่มป้ายแดง) ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จับกุมได้ที่บริเวณแยกไฟแดงหนองไผ่ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 37 (ชะอำ–ปราณบุรี) หลัก กม.ที่ 39 ขาขึ้น กทม.พื้นที่ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ เนื่องจากตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล.(ประจวบคีรีขันธ์) ได้สกัดจับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนภูเก็ต บริเวณแยกหนองไผ่ ถนนชะอำ–ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากได้รับแจ้งจากนายกิตติภูมิ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจปล่อยเช่าให้รถในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่ารถของตนได้ถูกคนร้ายหลอกเช่ารถไป ก่อนจะถูกตัดสัญญาณ GPS เมื่อทาง น.ส.สุภาพร และ น.ส.เขมนันท์  ติดต่อขอเช่ารถจากผู้เสียหาย ได้ทำทีเป็นนักท่องเที่ยว ก่อนนัดรับรถที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ดูเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว ที่เพิ่งบินมาถึง จากนั้นคนร้ายทั้งสอง ก็รับรถไป

กระทั่งช่วงเช้ามืดจึงเชื่อว่าคนร้ายอาศัยช่วงที่ผู้เสียหายกำลังนอน ลอบตัดสัญญาน GPS โดยผู้เสียหายมาทราบภายหลัง จึงเชื่อว่ารถของตนต้องถูกขโมยไปแล้วอย่างแน่นอน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 เพื่อขอให้ช่วยสกัดจับคนร้าย พร้อมกับรถดังกล่าว และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.พุนพิน จนพบว่ารถคันที่ถูกขโมยไป ถูกสกัดจับได้แล้วโดยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจค้นภายในรถ พบอุปกรณ์ตัดสัญญาณ GPS (แจมเมอร์) พร้อมป้ายทะเบียนปลอม เชื่อว่าผู้ต้องหาตั้งใจเปลี่ยนป้ายอำพรางรถเพื่อนำส่งขายต่อ โดยมีการวางแผนล่วงหน้า

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.สุภาพร เคยถูกดำเนินคดีเปิดบัญชีม้า ขณะที่ น.ส.เขมนันท์ มีหมายจับติดตัวในคดีลักทรัพย์ และมีประวัติก่อเหตุหลอกเช่ารถในหลายพื้นที่ โดยเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วกว่า 10 คัน สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพว่า รถจะถูกส่งต่อไปยังพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อส่งออกนอกประเทศ นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสอง ยังรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันทำงานให้กับนายบอส ผู้ว่าจ้างผ่านเพจเฟซบุ๊กปิด ซึ่ง เสนอค่าจ้างคันละ 10,000 บาท พร้อมออกค่าเดินทางและที่พักให้ทั้งหมด โดยนายบอส จัดเตรียมแจมเมอร์และป้ายปลอมมาให้เปลี่ยนระหว่างทาง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน รับไว้ดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป

015