ฝนหลวงฯ เปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ฝนของพ่อ ป่าของแม่ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพสกนิกรของพระราชา”
25 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ วิทยาลัยเทคนิคพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 โดยมีนางสาวขวัญเรือน ศรีจันทร์ ปลัดจังหวัดชลบุรี นายศิรเมศร์ พัชราอริยธรณ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพัทยา จิตอาสา ประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โอกาสนี้ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำผู้เข้าร่วมพิธีประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ทำพิธีเปิดโครงการฯ มอบเมล็ดพันธุ์พืชให้แก่ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ร่วมปั้นเมล็ดพันธุ์พืช ชมนิทรรศการ และพบปะผู้ร่วมกิจกรรม
นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราทุกคนต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์ศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทย ซึ่งโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดขึ้น เป็นอีก 1 โครงการในการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องการสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งทุกฝ่ายตระหนักในคุณค่าของป่าต้นน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริไปเป็นแนวทางในการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อรักษาระบบนิเวศ ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อมโดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์และพื้นที่อุทยานสำหรับดำเนินการ และกรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติภารกิจโปรยเมล็ดพันธุ์หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละวัน เพื่อกระจายเมล็ดพันธุ์พืช และเพิ่มความหนาแน่นของพื้นที่ป่าไม้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ และเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างโอกาสการปฏิบัติการฝนหลวงให้เป็นผลสำเร็จมากขึ้นด้วย
ในปี 2568 นี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กำหนดพื้นที่การโปรยเมล็ดพันธุ์ฯ โดยประสานกับกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ กำหนดชนิดพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับผืนป่าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่
• อุทยานแห่งชาติออบขาน จังหวัดเชียงใหม่
• อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์
• อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี
• อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ จังหวัดหนองบัวลำภู
• อุทยานแห่งไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ
• อุทยานแห่งชาติตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
• อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
และได้ขอรับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชจากกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนเมล็ดพันธุ์พืช 10 ชนิด ได้แก่
• ประดู่ป่า
• สัก
• แดง
• มะค่าแต้
• มะขามป้อม
• พะยูง
• สมอพิเภก
• สมอไทย
• มะค่าโมง
• ชิงชัง
จำนวน 1,835 กิโลกรัม.
การจัดกิจกรรมปั้นหุ้มดินเมล็ดพันธุ์พืชฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ จิตอาสา และประชาชนทั่วไป ปั้นหุ้มดินเมล็ดพันธุ์พืช และส่งต่อให้กับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละภูมิภาคเพื่อนำไปใช้ในการโปรยทางอากาศ โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายน 2568 ซึ่งถือได้ว่าโครงการดังกล่าวเป็นการหลอมรวมความสามัคคีของประชาชนทุกภาคส่วน ที่ได้มาร่วมกันเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่ผืนป่าให้กับประเทศไทยของเรา ให้ทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี