มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จัดกำลังอาสาสมัครพร้อมอุปกรณ์ลงพื้นที่ชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ลงพื้นที่ชายแดนช่วยชาวบ้านที่ได้รับกระทบจากการสู้รบไทย-กัมพูชา

วันที่ 26 ก.ค.68 ที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ได้จัดกำลังอาสาสมัครพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รับที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ หลังจากเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารเขมรที่ชายแดนหลายจุด โดยอาสาสมัครจากมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ได้เดินทางไปยังพื้นที่ชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ได้จัดเตรียมอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแผนการช่วยเหลือที่เหมาะสมการช่วยเหลือของมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบต่อสังคมในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในการดูแลและปกป้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยก่อนเดินทางกำลังอาสาสมัครได้จุดธูปขอพรบอกกล่าวฟ้าดินและขอพรจากโป๊ยเซียนโจวซือ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เทพเจ้าแปดเซียน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่

นายสถาพร ลิ้มมณีวิจิตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน บอกว่า หลังจากได้รับการประสานจากชมรมกู้ภัยสว่างขอให้ช่วยเตรียมกำลังและอุปกรณ์ไปช่วยเหลือทหารและประชาชนมูลนิธิฯได้ประชุมหารือและเตรียมกำลังทันที สำหรับพื้นที่จะเข้าช่วยเหลือและจัดชุดกำลังพลพร้อมอุปกรณ์ลงไปนั้น จะเดินทางไปที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีกำลังไป 10 นาย และรถอีก 3 คัน ซึ่งจุดนี้เท่าที่เรามีข้อมูลยังเป็นจุดที่อันตรายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด

ส่วนภารกิจที่ทางมูลนิธิจะลงไปปฏิบัติงานก็คือการช่วยเหลือประชาชนอพยพและทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานมาว่ามีทหารได้รับบาดเจ็บต้องการที่จะเดินทางไปโรงพยาบาลหลายรายและอยู่ระหว่างการรอลำเลียง อย่างไรก็ตามกำลังอาสาสมัครครั้งนี้ไม่ได้ลงไปพื้นที่บริเวณปะทะและสู้รบชายแดน แต่จะรอรับ อยู่ที่จุดพักคอยและนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

ด้าน นายรัฐกิตติ์ ยศธรากุลพิภัทร์ อาสาสมัครกู้ภัยสว่างเมธาอุดรธานี บอกว่า ตอนนี้ตนยังไม่ทราบว่าเมื่อลงพื้นที่ชายแดน จะได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ทำหน้าที่อะไรบ้าง เมื่อไปถึงต้องไปรายงานตัวให้หน่วยเหนือรับทราบก่อน ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรแต่ต้องขอดูหน้างานก่อนว่าจะเป็นยังไง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีทีมลงพื้นที่ไปก่อน เราแล้ว 1 ชุด ซึ่งจุดที่ทีมปฏิบัติงานห่างจากจุดสู้รบกัน 40 กม.

‘เราตั้งใจไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบหรือช่วยในส่วนที่หน่วยเหนือร้องขอมา พร้อมเต็มที่ครับ’ นายรัฐกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย ///-026