‘สมศักดิ์’ประชุมติดตาม‘น้ำท่วม-ปะทะชายแดน’ สั่งทีมแพทย์เฝ้าระวังใกล้ชิด แม้จะมีการเจรจาแล้ว เผยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 14 ราย พร้อมเร่งส่งทีมแพทย์ลงพื้นที่เต็มระบบ พบประชาชนในพื้นที่เครียดสูง 60 ราย-เสี่ยงฆ่าตัวตาย 46 ราย ขณะที่ รพ.ยังปิด 19 แห่ง
28 กรกฎาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากพายุวิภา และผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร เข้าร่วมประชุมที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือ ตนขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยผลกระทบพายุวิภา คาดว่า วันที่ 1 ส.ค.นี้ จะลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น มี 7 จังหวัดในภาคเหนือ ได้รับผลกระทบ และยังคงได้รับผลกระทบอยู่ 4 จังหวัด คือ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย ทำให้สถานบริการสาธารณสุข รับผลกระทบ 23 แห่ง โดยยังคงปิดบริการอยู่ 3 แห่ง คือ 1.รพ.น่าน 2.รพ.สต.ไหล่น่าน และ 3.รพ.สต.น้ำปั้ว ส่วนศูนย์พักพิง ได้เปิดรองรับแล้วคือ จ.น่าน 19 แห่ง จ.เชียงราย 2 แห่ง จ.พะเยา 2 แห่ง จ.แพร่ 7 แห่ง และ จ.สุโขทัย 9 แห่ง
“กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเตรียมเวชภัณฑ์อย่างเต็มที่ เช่น ยาชุดประจำบ้าน 3,014 ชุด ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย 1,735 กล่อง รองเท้าบูธ 580 คู่ มุ้ง 290 หลัง สเปรย์กันยุง 595 ขวด ยาทาน้ำกัดเท้า 490 หลอด ยาทากันยุงชนิดซอง 16,000 ซอง โดยเรื่องน้ำท่วม ผมขอเน้นย้ำ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนจังหวัดใด พ้นน้ำท่วมแล้ว ก็ขอให้เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วมด้วย โดยเรื่องน้ำท่วม ผมมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอดว่า เป็นผู้แทนราษฎร แต่น้ำท่วมจังหวัดสุโขทัยตลอด ซึ่งครั้งนี้ จังหวัดสุโขทัย ไม่ได้ฝนตกหนัก แต่รับน้ำมาจากจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งพอผมพูดถึงเรื่องการแก้ปัญหาระยะยาว ก็จะถูกเผ่าหุ่นตลอด จึงขอยืนยันว่า เรื่องน้ำท่วม ผมไม่ได้ละเลย แต่แก้ปัญหา และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ที่จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย ขณะที่ ข้อมูลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว แบ่งเป็น ผู้พิการ 808 ราย ผู้สูงอายุ 20,807 ราย ผู้ป่วยติดเตียง 671 ราย หญิงตั้งครรภ์ 246 ราย ผู้ป่วยฟอกไต 175 ราย และผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง 370 ราย ทั้งนี้ ทีมปฎิบัติการแพทย์ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน แบ่งเป็น ทีม Mini Mert 63 ทีม, ALS 145 คัน ,JIT 155 ทีม ,MCATT 123 ทีม และ SEhRT 140 ทีม ซึ่งได้ตรวจคัดกรองจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ 11,016 คน พบว่า เครียดสูง 60 ราย และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 46 ราย โดยวันนี้ ถึงแม้จะมีการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา แต่ตนก็ขอให้บุคลากรทางการแพทย์ ระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจจะมีเหตุปะทะก่อนถึงเวลาหยุดยิงได้
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ ได้ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ ซึ่งได้รับรายงานว่า น้ำที่เข้าท่วมโรงพยาบาล จนต้องปิดบริการ ขณะนี้ ระดับน้ำได้ลดจนแห้งแล้ว โดยอยู่ในช่วงขนย้ายดินโคลนออกจากโรงพยาบาล และเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ก่อนจะเตรียมเปิดให้บริการประชาชนเร็วๆนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ยังมีการเตรียมพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนัก คือ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ ก็ต้องมีการปรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น รถเคลื่อนที่ เนื่องจากในจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ได้ใช้มาก ก็ให้มาใช้ที่จังหวัดศรีสะเกษเพิ่มเติม นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังได้รับรายงานว่า ศูนย์พักพิงมีปัญหาเรื่องห้องน้ำที่ไม่สะอาด กรมอนามัย จึงส่งทีมเข้าไปดูแลเรื่องความสะอาด ให้เป็นไปตามมาตรฐานอนามัย เพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาด ส่วนวันนี้ รัฐบาล ก็จะเริ่มเจรจากับกัมพูชา ถ้าผลเป็นบวก มีการหยุดยิง เราก็ต้องเร่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมถึงอพยพคนกลับเข้าที่เดิม และรวบรวมความเสียหายโดยเร็ว ขณะที่เรื่องยาบางโรค ที่ต้องรับยา 7 วัน ก็ให้เพิ่มเป็น 2-3 เท่าได้ ซึ่งให้แพทย์พิจารณาถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์
เมื่อถามถึงผลกระทบโรงพยาบาลขณะนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานบริการสาธารณสุข ได้รับผลกระทบ 19 แห่ง โดยปิดบริการบางส่วน 7 แห่ง และปิดบริการทั้งหมด 12 แห่ง ส่วนที่เสียหายจำนวนมากมี 3 แห่ง ก็จะเร่งรวบรวมความเสียหาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี