3 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านฯ พร้อมคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและบริหารงบประมาณ ได้ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย เมื่อวานนี้ 2 สิงหาคม
ล่าสุด นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า สุโขทัยเป็นจังหวัดที่ไม่มีเขื่อนหลัก ไม่มีแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ และไม่มีระบบชะลอน้ำจากทางตอนเหนือที่ไหลลงมาตามแม่น้ำยม ทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนักหรือมีพายุ น้ำจะล้นแม่น้ำและเอ่อล้นจากตลิ่งอย่างรวดเร็ว ด้วยลักษณะของแม่น้ำยมที่มีต้นน้ำกว้างแต่แคบที่ปลายน้ำ ยิ่งทำให้ปริมาณน้ำล้นออกมาได้ง่ายขึ้น
เมื่อสอบถามกับหน่วยงานในพื้นที่ พบว่ามีโครงการ “คลองผันน้ำยมน่าน” ซึ่งจะช่วยผันน้ำจากแม่น้ำยมไปยังแม่น้ำน่าน แต่โครงการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ไม่สามารถรับน้ำได้เพียงพอ และแม้เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ ก็อาจระบายน้ำได้ไม่ทันกับปริมาณน้ำหลาก จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนปรับปรุงระบบระบายน้ำในลุ่มน้ำยมให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้นอย่างจริงจัง
แม้ว่าวันนี้ระดับน้ำจะเริ่มลดลง แต่สุโขทัยยังไม่พ้นจากความเสี่ยง หากเกิดพายุอีกระลอก น้ำก็จะไหลเข้ามาใหม่ได้ทันที
เมื่อผมได้ลงพื้นที่ไปพบกับประชาชนชาวสุโขทัย ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากสถานการณ์น้ำ พบว่าถึงแม้สถานการณ์น้ำจะเบาบางลง แต่ประชาชนยังคงได้รับผลกระทบอยู่ บ้านเรือนที่อยู่ใกล้ลำน้ำหลายหลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเสียหาย บางหลังก็ถูกน้ำพัดหายไป เพราะตลิ่งพังและถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง และประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐอย่างเพียงพอ
คันดินกั้นน้ำที่มีอยู่ต้องซ่อมแซมทุกปี เนื่องจากงบประมาณจากรัฐบาลกลางไม่เพียงพอสำหรับสร้างคันกั้นน้ำถาวร โดยเฉพาะปีนี้ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีก่อนหน้า แต่น้ำกลับท่วมมากกว่า เพราะคันดินเสื่อมสภาพลง
แนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่สุโขทัย จึงควรมุ่งเน้นที่การเพิ่มพื้นที่อ่างเก็บน้ำ , การจัดทำพื้นที่แก้มลิง , การขุดลอกและพัฒนาแนวคลอระบายน้ำ , การบำรุงรักษาคลองระบายน้ำเดิมอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่
มาถึงวันนี้ เราจะเห็นได้ว่า หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศเขตภัยพิบัติ การมีอุปกรณ์รับมือที่เพียงพอ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมและการฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถรับมือและเยียวยาสถานการณ์ภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่หน้าที่ของรัฐบาลกลาง ควรมุ่งเน้นการวางแผนภาพรวม อย่างการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อ “หาที่ให้น้ำอยู่” อย่างการขุดลอก หรือมีอ่างเก็บน้ำเพิ่มเติมเป็นแก้มลิง หรืออ่างเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มความสามารถในการชะลอน้ำในช่วงน้ำหลาก รวมถึงการเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้ส่วนหนึ่งด้วย
และการ “หาที่ให้น้ำไป” ที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายของน้ำ อย่างโครงการคลองผันน้ำยมน่าน และโครงการอื่นๆ ที่ต้องจัดการเป็นลุ่มน้ำทั้งระบบต่อไปในอนาคต.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี