กรมประมง แนะสูตรผลิตอาหารสัตว์น้ำอินทรีย์จากวัตถุดิบท้องถิ่น หนุนเกษตรกรลดต้นทุนการเลี้ยง สัตว์น้ำโตไว ปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมแนะ 5 สูตรอาหารสัตว์น้ำอินทรีย์ที่ทำเองได้ไว้ใช้ในครัวเรือน โชว์เคสผลสำเร็จของ “กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีเมืองแก” จ.สุรินทร์ นำร่องทดลองเลี้ยงปลานิลและปลาตะเพียน
วันนี้ (3 ส.ค.) นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า การส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสินค้าสัตว์น้ำตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสัตว์น้ำของไทยรวมถึงการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันถือเป็นนโยบายที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มุ่งขับเคลื่อนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้านการเกษตรสู่มาตรฐานสูง ซึ่งเป็นการพัฒนาทั้งมิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Go Green ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการพึ่งพาสารเคมี พร้อมสนับสนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเชื่อมโยงสู่โมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของภาคเกษตรไทยได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ได้สนับสนุนให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้มีการผลิตอาหารสัตว์น้ำแบบอินทรีย์ เนื่องจากปัจจุบันผลผลิตสัตว์น้ำที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอินทรีย์ยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและอยู่ในวงจำกัด จึงต้องเร่งขยายและสร้างแหล่งผลิตสัตว์น้ำที่เป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น โดยได้ผลักดันผ่านกิจกรรมพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ภายใต้โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มพื้นที่และปริมาณการผลิตเกษตรอินทรีย์ด้านประมงทั้งการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พืชน้ำ และผลิตภัณฑ์ โดยเน้นการส่งเสริมการผลิตอาหารสัตว์น้ำอินทรีย์จากวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้ง่าย เช่น รำ ปลายข้าว แหนแดง ผำ กล้วยน้ำว้า ฟักทอง ผักไชยา และใช้วิตามินแร่ธาตุเสริมเพื่อให้ได้อาหารที่สมดุลตามความเหมาะสมของแต่ละชนิดสัตว์น้ำ
รองอธิบดีกรมประมง กล่าวอีกว่า สูตรอาหารสำหรับเลี้ยงปลากินพืชแบบอินทรีย์ที่กรมประมงแนะนำ มีส่วนผสมของวัตถุดิบต่าง ๆ ดังนี้ (อัตราส่วนรวม 100) สูตรที่ 1 ประกอบด้วย ไข่ต้ม 15 หนอนแมลงวันลายอบแห้ง 10 ไส้เดือนดินอบแห้ง 5 ถั่วเหลืองบด 25 ปลายข้าวบด 10 รำละเอียด 15 วิตามินและแร่ธาตุรวม 0.5 ไดแคลเซียมฟอสเฟต 1.5 กล้วยน้ำว้าบด 18 มีโภชนาการ โปรตีน 28.66, ไขมัน 15.43, พลังงาน 480.13
สูตรที่ 2 ประกอบด้วย หนอนแมลงวันลายอบแห้ง 10 หัวปลาอบแห้ง 10 ไส้เดือนดินอบแห้ง 5 แหนแดง แห้ง 10 ผำสด 5 ถั่วเหลืองบด 20 ปลายข้าวบด 10 รำละเอียด 10 วิตามินและแร่ธาตุรวม 0.5 ไดแคลเซียมฟอสเฟต 1.5 กล้วยน้ำว้าบด 18 มีโภชนาการ โปรตีน 26.48, ไขมัน 15.30, พลังงาน 450.26
สูตรที่ 3 ประกอบด้วย แหนแดงแห้ง 5 ถั่วเหลืองบด 27 ปลายข้าวบด 18 รำละเอียด 22 วิตามินและแร่ธาตุรวม 0.5 ไดแคลเซียมฟอสเฟต 1.5 กล้วยน้ำว้า 26 มีโภชนาการ โปรตีน 20.86, ไขมัน 12.15, พลังงาน 450.20
สูตรที่ 4 ประกอบด้วย ไส้เดือนดินอบแห้ง 2 แหนแดงแห้ง 5 ผำสด 2 ถั่วเหลืองบด 25 ปลายข้าวบด 18 รำละเอียด 20 วิตามินและแร่ธาตุรวม 0.5 ไดแคลเซียมฟอสเฟต 1.5 กล้วยน้ำว้า 26 มีโภชนาการ โปรตีน 21.41, ไขมัน 11.61, พลังงาน 445.12
สูตรที่ 5 ประกอบด้วย หนอนแมลงวันลายอบแห้ง 2 แหนแดงแห้ง 7 ถั่วเหลืองบด 25 ปลายข้าวบด 18 รำละเอียด 20 วิตามินและแร่ธาตุรวม 0.5 ไดแคลเซียมฟอสเฟต 1.5 กล้วยน้ำว้า 26 มีโภชนาการ โปรตีน 20.91, ไขมัน 11.84, พลังงาน 444.71
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2567 กรมประมง มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตสูตรอาหารสัตว์น้ำอินทรีย์เพื่อใช้เลี้ยงปลานิล และปลาตะเพียนขาว สู่กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จำนวนรวม 12 ราย โดยจากการติดตามผลการเลี้ยง พบว่าปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารอินทรีย์มีความสมบูรณ์ เนื้อแน่น โตเร็ว โดยเฉพาะปลาตะเพียนมีการตกไข่เร็วกว่าปกติ ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์
“แม้ว่าการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอินทรีย์จะมีข้อจำกัด ทั้งในด้านกระบวนการผลิตที่ต้องปลอดสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือสินค้าคุณภาพสูงที่ปลอดภัยทั้งต่อผู้บริโภคและระบบนิเวศ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือนเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับสินค้าประมงของไทยสู่ตลาดที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในระดับสากล สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต” รองอธิบดีกรมประมง กล่าว
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี