ตำรวจ บก.ปคม.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเซลล์ปลอมตุ๋นบริษัทน้ำมัน เชิดเงินหนีซ่อนตัวในบ้านเกือบ 2 ปี

วันนี้ (3 ส.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์  พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม. พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก.3 บก.ปคม. พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม.นำกำลังจับกุม น.ส.รวีวรรณ อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 75/2567 ลงวันที่ 20 ส.ค.2567 ข้อหาฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่เกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

การจับกุมดังกล่าว เนื่องจากเมื่อประมาณปี 2566 น.ส.รวีวรรณ ได้ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์อ้างเป็นพนักงานของโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ติดต่อขอซื้อน้ำมันดีเซลล์กับบริษัทน้ำมัน ผู้เสียหาย โดยตกลงซื้อน้ำมันจำนวน 15,000 ลิตร รวมมูลค่ากว่า 270,000 บาท โดยให้บริษัทจัดส่งน้ำมัน 2 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 ให้จัดส่งที่โรงน้ำแข็งสาขาประทาย จำนวน 6,000 ลิตร และแห่งที่ 2 ให้จัดส่งที่โรงน้ำแข็งสาขาชัยภูมิ จำนวน 9,000 ลิตร ทางบริษัทน้ำมันดังกล่าวหลงเชื่อ จึงส่งน้ำมันให้โรงน้ำแข็งทั้ง 2 แห่ง โดยมีพนักงานโรงน้ำแข็งลงลายมือชื่อรับน้ำมัน เมื่อบริษัทน้ำมันส่งน้ำมันครบ จึงทวงถามการชำระเงิน แต่ผู้ต้องหาแจ้งว่าให้รอทำเรื่องเบิกเงินจากโรงน้ำแข็ง แล้วจะนำเงินมาชำระค่าน้ำมันให้

ต่อมาเมื่อบริษัทน้ำมัน ทวงถาม น.ส.รวีวรรณ ก็ยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมชำระ จากนั้นบริษัทได้ติดต่อไปหาโรงน้ำแข็ง จึงทราบว่าผู้ต้องหาไม่ใช่พนักงาน และโรงน้ำแข็งได้ชำระเงินค่าน้ำมันทั้งหมดให้ผู้ต้องหาไปแล้ว บริษัทน้ำมัน จึงเชื่อว่าถูก น.ส.รวีวรรณ หลอกลวง และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากหลบหนีคดีมานานเกือบ 2 ปี ทางชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม.สืบทราบว่า น.ส.รวีวรรณ หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยไม่ออกจากบ้าน ตัดขาดการติดต่อกับโลกภายนอก รวมถึงทำสภาพรอบบ้านให้เสมือนเป็นบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ก็สืบจนพบ และได้รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกหมาย และเข้าตรวจค้น โดยพบว่าที่บ้านดังกล่าว มีการติดกล้องวงจรปิดไว้โดยรอบและภายใน เพื่อตรวจตราความเคลื่อนไหว ก่อนจะพบตัว น.ส.รวีวรรณ แอบซ่อนตัวอยู่ใต้ราวตากผ้า ภายในห้องนอน จึงเข้าจับกุม และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดี โดยสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.รวีวรรณ ยังมีหมายจับติดตัวอยู่อีก 1 หมาย คือหมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.8/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.2568 ข้อหายักยอกทรัพย์ เหตุเกิดในปี 2566 ขณะทำงานเป็นเซลล์ขายน้ำมัน เบิกน้ำมันดีเซลไปขายให้ลูกค้า แต่ไม่ส่งเงินคืนบริษัท สร้างความเสียหายเกือบ 8 แสนบาท ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี นอกจากนี้ผู้ต้องหายังมีประวัติคดีเกี่ยวกับการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีลักษณะหรือมีการกระทำเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น เกิดมูลค่าความเสียหาย 400,000 บาท ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาถูกขึ้นบัญชี Blacklistseller.com เว็บไซต์แจ้งเตือนผู้บริโภค ว่าเป็นผู้ขายที่ควรระวัง โดยฝากเตือนลูกค้าให้ระวังการทำธุรกรรมกับบุคคลนี้ด้วย

015