คกก.วิสามัญงบ กทม. 69 วันแรก! 5หน่วย ย้ำต้องจัดสรรงบประมาณให้คุ้มค่าตรงความต้องการของประชาชน
วันที่ 6 ส.ค.68 ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. ดินแดง คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัตกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ได้มีการพิจารณาร่างฯ ของ 5 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ก.ก.) สำนักการคลัง สำนักงบประมาณ หน่วยงานการพาณิชย์กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
คณะกรรมการวิสามัญฯ ตั้งข้อสังเกตถึงสำนักงาน ก.ก. ว่า อัตรากำลังคนของกรุงเทพมหานครในหลายตำแหน่งยังคงขาดแคลนอย่างมาก หรือบางหน่วยงานมีเจ้าหน้าที่มากเกินความจำเป็น อีกทั้งเรื่องการรับสมัครตำแหน่งพิเศษ เช่น ตำแหน่งที่เกี่ยวกับการโยธา ไฟฟ้า นั้น เมื่อมีผู้สมัครสอบผ่านแต่ ก.ก. กลับไม่ให้ผ่านคุณสมบัติเนื่องจากวุฒิสาขาวิชาเอกไม่ตรงตามประกาศ จึงทำให้มีผู้สมัครที่สอบผ่านหลายรายร้องเรียน และยังมีเรื่องอัตรากำลังข้าราชการครูที่ขาดแคลน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขอย้ายกลับภูมิลำเนา หรือลาออกเนื่องจากสอบติดหน่วยงานอื่น คณะกรรมการวิสามัญฯ จึงเสนอให้เพิ่มหรือผลิตครูของกรุงเทพมหานครโดยจัดตั้งเป็นโรงเรียนเฉพาะหรือทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร ในส่วนของเรื่องการจ้างคนพิการต้องการให้กำหนดคุณสมบัติแต่ละตำแหน่งก่อนที่จะมีการรับคนพิการเข้ามาทำงานแล้วจึงหางานที่เหมาะสมให้ภายหลัง
ด้าน นางสาวอรัญญา พรไชยะ หัวหน้า สำนักงาน ก.ก. ชี้แจงว่า อัตรากำลังคนของกรุงเทพมหานครนั้นมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับอาชีวศึกษาเพื่อคัดเลือกนักศึกษาจบใหม่ให้ฝึกงานและบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ส่วนเรื่องวุฒิการศึกษาที่ไม่ผ่านเกณฑ์นั้น เนื่องจากผู้สมัครสอบนั้นมีจำนวนมากกว่าหมื่นคนและให้ผู้สมัครเป็นคนกรอกข้อมูลเอง หากตรวจสอบตั้งแต่สมัครเสร็จจะใช้เวลาตรวจสอบค่อนข้างนาน จึงทำการตรวจสอบหลังจากสอบผ่านรอบแรกแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ก. จะนำข้อสังเกตของคณะกรรมการวิสามัญฯ ไปปรับปรุง ส่วนเรื่องการรับบรรจุคนพิการเข้ารับราชการนั้น เนื่องจากไม่สามารถล็อคตำแหน่งที่ว่างไว้ให้ได้ จึงต้องมีการรับสมัครก่อนเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมอีกครั้ง
ในส่วนของสำนักการคลัง คณะกรรมการวิสามัญฯ ตั้งข้อสังเกตถึงกรมบัญชีกลางในการของบประมาณของกรุงเทพมหานครเป็นปีแรกว่า การกำหนดราคากลางในปัจจุบันนั้นไม่มีการปรับราคามานาน ค่าแรง ค่าวัสดุ ราคาขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้บางโครงการของกทม. ไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้เนื่องจากผู้รับจ้างมองว่าไม่คุ้มทุน รวมถึงการกำหนด TOR ของหน่วยงานที่ต้องการสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เช่น โรงพยาบาล จำเป็นต้องกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะบริษัทเอกชนบางรายสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษมาหลายโครงการ แต่ไม่สามารถเข้ารับงานของกทม.ได้ อีกทั้งกรมบัญชีกลาง
ผู้ชี้แจง ตอบว่า ในการกำหนดราคากลางใหม่ได้มีการประชุมในหน่วยงานแล้วเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องใช้ระยะเวลาในการปรับราคาในอนาคต ส่วนเรื่องการกำหนด TOR ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารพิเศษนั้น หน่วยงานสามารถกำหนดได้ตามความเหมาะสม และเสริมว่าการขึ้นทะเบียนผู้ทิ้งงานของกทม.นั้นกำลังดำเนินการเพิ่มในส่วนของงานก่อสร้างอาคาร โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ทิ้งงานได้จากการใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของนิติบุคคลรวมถึงชื่อกรรมการของบริษัทผู้ยื่นประมูลตรวจสอบได้ทันที
จากนั้นคณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาร่างข้อบัญญัติของสำนักงบประมาณ การพาณิชย์กทม. สำนักงานเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.
คกก.วิสามัญฯ ตั้งข้อสังเกตถึงสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย (สพอ.) ว่า สพอ. ควรแยกตัวออกมาจากสำนักพัฒนาสังคม เนื่องจากการทำงานของ สพอ. ค่อนข้างจำกัดต้องของบประมาณภายใต้สำนักพัฒนาสังคม การดูแลที่อยู่อาศัยของข้าราชการกรุงเทพมหานครและผู้มีรายได้น้อยยังไม่ครอบคลุมพื้นที่
ผอ.สพอ. และ นายต่อศักดิ์ โชติมงคล รองประธานคณะกรรมการวิสามัญฯ ชี้แจงว่า เนื่องจาก สพอ. เป็นหน่วยงานการพาณิชย์จึงไม่สามารถโอนย้ายทรัพย์สินของราชการมาเป็นของหน่วยงานได้ จึงต้องนำเข้าไปอยู่ในการกำกับดูแลของสำนักพัฒนาสังคมเพื่อดำเนินการ
ทางด้านสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร คกก.วิสามัญฯ ตั้งข้อสังเกตถึงเอกสารสำหรับพิจารณาที่ไม่จัดเตรียมให้เรียบร้อย ต้องปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ พร้อมเสนอให้เพิ่มแอปพลิเคชันเพื่อความสะดวกแก่ประชาชน
-037-
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี