สึกแล้วก็ไม่รอด!

‘บิ๊กเต่า’ลุยจับอดีตเจ้าคณะพิจิตร

ยักยอกเงินวัดเปย์ให้สีกา

เจ้าอาวาสวัดใหญ่ฯไม่รอด

“บิ๊กเต่า” นำทีม เปิดปฏิบัติการฟ้าผ่า “กอล์ฟทีม EP.1” จับอดีตพระผู้ใหญ่ และลูกศิษย์คนสนิท ลุยค้น 3 จุด พบหลักฐานมัด ปมยักยอกเงินนับล้านบาท ไปเปย์สีกากอล์ฟ คุมตัวสอบเข้มที่ บช.ก.ขยายผลคดี

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการ ป.ป.ท.นำกำลังเปิดปฏิบัติการ“กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้น 3 จุดใน จ.สุราษฎร์ธานีจ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดที่เคยพัวพันกับคดีสัมพันธ์ฉาว “สีกากอล์ฟ” หลังจากพบหลักฐานการกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกาดังกล่าว

จุดแรกที่ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรืออดีตพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานแต่กลับเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริตและ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยพบตัวนายทิวากร กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก จึงเข้าจับกุมตัวทันที จุดที่2 ที่ จ.สมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสันติชัย ผ่องใส่ศรี อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฯ ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของอดีตพระมหาทิวากร เจ้าหน้าที่พบตัวนายสันติชัย บริเวณหน้าบ้านพัก จึงจับกุมไว้ได้โดยละม่อม จุดที่3 ที่ จ.พิจิตร บ้านพักของพี่สาวของนายวิรัติ วัชรสิทธิเมธี หรืออดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฯ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยเจ้าหน้าที่พบตัวนายวิรัติกำลังนอนพักผ่อนจึงจับกุมตัวและเข้าตรวจค้นเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เนื่องจากกรณีอื้อฉาวของพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปที่มีพฤติกรรมเสพเมถุนและมีความสัมพันธ์กับ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือสีกากอล์ฟจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้พระชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้นต้องทยอยลาสิกขาไปแล้วหลายรูปอย่างไรก็ตาม แม้ว่าพระที่พัวพันกับสีกากอล์ฟจะลาสิกขาเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางวินัยสงฆ์แล้วก็ตามแต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องดำเนินการตรวจสอบในส่วนของคดีอาญา หลังจากพบว่ามีพระหลายราย ที่มีการโอนเงินหลายล้านบาทให้กับสีกากอล์ฟ ซึ่งเชื่อว่าเงินส่วนใหญ่นั้นเป็นของวัด

จากการตรวจสอบพบว่า พระมหาทิวากร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท เคยโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟกว่า 1,176,740 บาท ช่วงปี 2565-2568 นอกจากนี้ยังพบว่ามีการรับเงินค่าเช่าที่จอดเรือริมแม่น้ำท่าจีนจากบริษัทเอกชน 3 แห่ง เป็นเงิน 870,000 บาท ซึ่งนายสันติชัย ลูกศิษย์คนสนิทเป็นผู้เก็บเงิน แต่ปรากฏว่าเงินทั้งหมดไม่ได้ถูกนำเข้าบัญชีวัด แต่นายทิวากรกลับนำไปใช้ส่วนตัว ทำให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานเพื่อขอหมายจับทั้งสองคน ส่วนการจับกุมนายวิรัติ หรืออดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกากอล์ฟนั้น เนื่องจากพบว่าขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ มจร.พิจิตร ได้รับเงินบริจาค 3 ล้านบาทจากผู้ศรัทธาเพื่อพัฒนา มจร.แต่เงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้ถูกนำเข้าบัญชีธนาคารของ มจร.พิจิตร แต่อย่างใด โดยขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายอยู่ระหว่างถูกคุมตัวไปสอบปากคำที่บก.ปปป.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบที่วัดใหญ่จอมปราสาท ว่าจากการบูรณาการกำลังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดการปัญหาเกี่ยวกับวัดต่างๆ ทั้งเรื่องเงินและเรื่องพระวินัย ในส่วนของวัดใหญ่จอมปราสาท ได้จับกุมนายทิวากร ดีไพร หรือมหาทิวากร อดีตเจ้าอาวาสวัดฯ ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี และหลานชายคนขับรถที่บ้านพัก จึงอยากมาตรวจสอบบัญชีธนาคารของอดีตเจ้าอาวาสวัดฯ ที่โอนเงินให้สีกา ด้วยเหตุผลอะไร ที่มีถึงราวๆ 6-7 ล้านบาท ซึ่งโอนตั้งแต่ปี 2561 เรื่อยมา และโอนทุกวันๆ ละหลายๆ รอบ แม้ว่าแต่ละรอบจะเป็นเงินไม่มากตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท แต่เมื่อรวมๆกันแล้วก็เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังต้องการให้คณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมช่วยกันดูแลวัด

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลการดำเนินคดี โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธและยังไม่พบข้อพิรุธอื่นใดเพิ่มเติม ซึ่งเส้นทางในการโอนเงินค่าเช่าพื้นที่วัดนั้นจะเข้าบัญชีเจ้าอาวาสโดยไม่ผ่านบัญชีวัด และถูกโอนไปให้สีกาขณะที่การตรวจสอบรายละเอียดไม่พบว่ามีคลิปแต่มีสลิปการโอนเงินไปยังสีกาเป็นจำนวนมาก

ด้านนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.กล่าวว่า สำหรับการบูรณาการทั้งหมดเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นผู้ซึ่งดำรงอยู่ในศีลธรรมอันดี ส่วนอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นเราก็ต้องใช้กระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเอาคนไม่ดีออกไป ในส่วนของการขับเคลื่อนครั้งนี้เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา ทำให้ศาสนาและสังคมดีขึ้น