วันที่ 7 สิงหาคม 2568 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงประเด็นที่นายเสกสันน์ หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถึงประเด็นในเรื่องของการเปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุโดยใช้ชื่อตนเอง ว่ามีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ต้นมีนาคมที่มาผ่าน หลังพบพิรุธการเบิกถอนเงินจากบัญชีของหมอบี ที่มีการเปิดรับบริจาคเงินจากเพจ “งมงายสไตล์หมอบี” ที่เปิดรับบริจาคตั้งแต่ปี 2560 โดยระบุว่าเป็นการใช้จ่ายในกิจการของวัด หลังจากนั้นได้ตั้งชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จนพบข้อมูลว่ามีการเบิกถอนออกมาจำนวน 101 ครั้ง เป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท พบบางครั้งมีการเบิกในบางรายการ เช่น ประมาณ 3 ล้านกว่า แต่ส่งมอบให้กับเจ้าอาวาสเพียงกว่า 1 ล้านบาทเท่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นเงิน
ส่วนกรณีที่หมอบี เดินทางมาในวันนี้ ไม่ได้มีการแจ้งพนักงานสอบสวนล่วงหน้า เจ้าตัวมาลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวนว่าไม่ได้มีเจตนาหลบหนีตามที่เป็นกระแสข่าว และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ โดยนำเอกสารบางส่วนมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนด้วย
เมื่อถามถึงพฤติการณ์ของหมอบีว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก บอกว่า ต้องดูเจตนา แต่จากการตรวจสอบข้อมูลที่ผ่านมา ยอมรับว่าเรื่องนี้มีมูลว่าเข้าข่าย และสามารถรู้ความเป็นมาของเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งต้องดูในเรื่องของเจตนาว่าการเปิดบัญชีเพื่อกิจการของวัด แต่นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่เปิดรับบริจาคหรือไม่
แต่ในกรณีของวัดพระบาทน้ำพุ ทางวัดยังไม่ได้ดำเนินการแจ้งความกับหมอบี ซึ่งทางวัดขอตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน คาดว่าใช้เวลาไม่นาน
อย่างไรก็ตาม หากเจ้าอาวาสไม่เข้ามาดำเนินการแจ้งความ ก็ไม่เป็นไร ยังมีผู้บริจาคให้สามารถตรวจสอบได้ ส่วนเจ้าอาวาสจะมีส่วนกระทำผิดในฐานะเจ้าพนักงานหรือไม่ ต้องดูที่เจตนาของท่าน ซึ่งตนอยากเตือนเจ้าอาวาสว่า การทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ก็จะส่งผลกระทบ ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านก็เป็นเจ้าพนักงาน
ส่วนกรณีที่กระแสข่าวก่อนหน้านี้ เตรียมเรียกญาติใกล้ชิดเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เข้าให้ข้อมูลหลังพบความร่ำรวยผิดปกติ รวมถึงคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการรับบริจาคเงินของวัด พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า มีการสอบปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้
เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ตอนนี้ทางวัดยังไม่ได้มีการมาแจ้งความหลังจากที่ทางกองบังคับการไปรับเรื่องแล้ว ทางผู้บังคับการปราบปรามได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนไปพบหลวงพ่อที่วัด
จากพฤติการณ์ที่มองเอาไว้ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ตามพฤติการณ์ที่สืบสวนได้ในเบื้องต้นได้มีการเปิดเพจแล้วแจ้งเลขบัญชีรับบริจาคเพื่อไปกิจการของวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเบื้องต้นมองว่าประชาชนเข้าใจว่าเป็นการบริจาคเพื่อกิจการของวัด หากบริจาคไปแล้วแต่ไม่ได้นำเงินไปใช้ในกิจกรรมของ อาจเป็นเรื่องของการฉ้อโกงได้
พ.ต.อ.เอนก ยังยืนยันอีกว่า พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนการตรวจสอบในเรื่องนี้นี้ยังไม่เป็นคดีความ ยังไม่มีใครแจ้งความดำเนินคดีกับหมอบีแต่อย่างใด สำหรับกรณีนี้ไม่มีความซับซ้อน เพราะบัญชีนี้มีการระบุแล้วว่าเป็นการเปิดรับบริจาคเพื่อกิจการของวัด ซึ่งมันชัดเจนอยู่ในตัวมันเอง
ส่วนเรื่องของการเบิกเงินจากบัญชีไปทำสถานปฏิบัติธรรม ต้องยอมรับว่าตอนนี้กำลังตรวจสอบในทุกมิติ ว่าเงินที่มีการเบิกไปแล้วนำไปไหน หากมีการเบิกจากบัญชีที่เปิดรับบริจาคแล้วอ้างว่าไปใช้ในกิจการของวัด แต่หากนำไปใช้ในการซื้อทรัพย์สินส่วนตัว ถือว่ามีเจตนาที่ไม่สุจริต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี