ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น
รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธวชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตรรอง ผกก.3 บก.ป และ พ.ต.ท.ศิษฎ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.รังสิมันตุ์ ตันจริง
รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายบรรจงฯ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 30/2568 ลงวันที่ 5 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดย มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานทำเอกสาร รับ เอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร ร่วมกันกระทำการรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ”
อนึ่งจากการตรวจสอบหมายจับค้างเก่ายังพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับที่ยังประกาศสืบจับ
อีกจำนวน 1 หมายดังนี้
1.หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 31/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดย มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานทำเอกสาร รับ เอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร ร่วมกันกระทำการรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ” สถานที่จับกุม สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีกสาน
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2565 ผู้ต้องหาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการระดับต้นปฏิรูปที่ดินจังหวัดแห่งหนึ่ง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในขณะที่ตนมีหน้าที่ร่วมกันออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบ ร่วมกับผู้ปกครองท้องที่ ผู้ใหญ่บ้าน รับรองว่า ผู้ยื่นคำขอมีการเข้าทำประโยชน์แต่ความเป็นจริง มีสภาพเป็นป่าไม่มีการเข้าทำประโยชน์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มกฎหมายรับรองว่า มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรมีการเข้าทำประโยชน์ และนายบรรจงฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับลงนามออกใบอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ การกระทำของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ขั้นตอนการรังวัด การสอบสวนสิทธิ จนกระทั่งออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 24 ไร่ 36 ตารางวา ออกให้ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2566
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าปัจจุบัน นายบรรจงฯ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการระดับสูงปฏิรูปที่ดินจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีกสาน สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัด
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัด กระทั่งพบตัวผู้ต้องหากำลังนั่งทำงานในห้องทำงานของตน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 31/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568 จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าผู้ต้องหายังมีหมายจับคดีทุจริตในตำแหน่งหน้าที่ติดตัวอีก 1 หมาย และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับใดมาก่อน จึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี