ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องปัญญาวิจิตร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโสฯ แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาส 2 ปี 2568 โดยระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอีสานในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 ถึง 1.5 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้า และถือเป็นระดับการเติบโตที่น้อยมากเมื่อเทียบกับศักยภาพของภูมิภาค แบงก์ชาติชี้ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงกระจุกตัวอยู่ในบางภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรมส่งออก การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะประชาชนระดับฐานรากยังไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลงติดต่อกันถึง 32 เดือน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ทั้งนี้ รายได้เกษตรกรยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจากราคาพืชผลสำคัญอย่างยางพารา มันสำปะหลัง และอ้อย ที่ตกต่ำลงจากปีก่อน รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น สถานการณ์การค้าขายและการใช้จ่ายในพื้นที่ก็ยังซบเซา ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังเป็นแรงกดดันสำคัญ แม้จะมีปัจจัยบวกจากการส่งออกที่เร่งตัวก่อนถูกเก็บภาษีจากสหรัฐฯ การลงทุนภาครัฐที่เบิกจ่ายได้ดี และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่แบงก์ชาติย้ำว่า การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นยังไม่กระจายอย่างทั่วถึง “เหมือนน้ำตกเป็นชั้น ๆ ที่ยังไม่ไหลถึงรากหญ้า”