วันที่ 17 สิงหาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก ตำบลน้ำรึม อำเภอเมือง จังหวัดตาก เพื่อตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินตากและการปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติโอนความรับผิดชอบจากกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และส่งมอบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงและพัฒนาเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบินแห่งใหม่ในภาคเหนือ โดยสนามบินตากจะได้รับการพัฒนาเป็นฐานหลักในการปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ดับไฟป่า และบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แทนศูนย์ปฏิบัติการเดิมที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีข้อจำกัดด้านรันเวย์และเที่ยวบินพาณิชย์ที่มีเป็นจำนวนมาก โดยจะมีแผนพัฒนาครอบคลุมทั้งการปรับปรุงผิวรันเวย์ ทางขับ ลานจอด ซ่อมแซมรั้วสนามบิน อาคารผู้โดยสาร ระบบสื่อสารและอุปกรณ์ช่วยการบิน ตลอดจนจัดหาบริภัณฑ์ภาคพื้น เช่น รถดับเพลิง รถเชื้อเพลิง และรถตรวจความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีแผนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน เพื่อผลิตและพัฒนานักบิน ช่างอากาศยาน และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง พร้อมเครื่องฝึกบินเสมือนจริง (Full Flight Simulator) มาตรฐานสากล และศูนย์ฝึกภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งจะสามารถช่วยยกระดับมาตรฐานการบินของประเทศ และลดค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรมในระยะยาวได้
ด้าน นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการปฏิบัติการฝนหลวง ขณะนี้บริเวณภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.น่าน และ จ.เชียงใหม่ ในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนเพียงพอแล้ว แต่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จ.ลำพูน จ.ตาก จ.สุโขทัย จ.กำแพงเพชร จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และ จ.เพชรบูรณ์ ยังต้องการน้ำเร่งด่วนเพื่อรักษาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งกรมฯ ได้วางแผนปฏิบัติการอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่อุทกภัย และมุ่งเน้นช่วยเหลือให้ตรงพื้นที่ที่ต้องการน้ำในภูมิภาคอื่นๆ โดยมีผลการปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2568 ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 146 วัน 1,865 เที่ยวบิน มีฝนตกจากการปฏิบัติการถึงร้อยละ 91.84 ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกว่า 21.81 ล้านไร่ และเติมน้ำเขื่อนสำคัญในภาคเหนือหลายแห่ง
โอกาสนี้ กรมฝนหลวงฯ ยังได้เปิดตัว เครื่องบินลำใหม่ L-410NG จำนวน 2 ลำ เพื่อเข้าประจำการสนับสนุนภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศ โดยเครื่องบินดังกล่าวมีสมรรถนะสูง เป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ในภูมิภาคอาเซียนที่ติดตั้งระบบเฉพาะเพื่อการดัดแปรสภาพอากาศ สามารถบินไกลถึง 2,500 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 417 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมมีเทคโนโลยี Glass Cockpit Garmin G3000 ทันสมัยและปลอดภัย ทั้งนี้ การพัฒนาสนามบินตากและการเพิ่มขีดความสามารถด้านอากาศยานครั้งนี้เป็นการสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงริเริ่มโครงการพระราชดำริฝนหลวง และยังคงได้รับการสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี