วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'นฤมล'เล็งใช้ผลการสอบวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เข้าเรียนต่อชั้น ม.1,ม.4

'นฤมล'เล็งใช้ผลการสอบวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เข้าเรียนต่อชั้น ม.1,ม.4

วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 17.52 น.
Tag :
  •  

'นฤมล' เล็งใช้ผลการสอบวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เข้าเรียนต่อชั้น ม.1,ม.4  ด้าน ‘ธรรมนัส’ คุยไม่มีใครกล้าตัดงบศธ.

18 สิงหาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการประชุมและติดตามนโยบายสำคัญด้านการศึกษาและการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาแก่หน่วยงานในสังกัด ศธ. พร้อมประชุมรับฟังผลกระทบจากเหตุพายุโซนร้อน “วิภา” และรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้บริหารและครู โดยมี นายบุญสิงห์ วรินร์รักษ์ ที่ปรึกษา รมว.ศธ., นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดศธ. ,ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา, นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้, และคณะผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.จากส่วนกลาง และมีศึกษาธิการภาค  ศึกษาธิการจังหวัด ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมประชุม กว่า 500 คน ที่หอประชุม 80 ปี โรงเรียนพะเยาพิทยาคม จังหวัดพะเยา โดยมี นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวต้อนรับ โอกาสนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พะเยา เขต 1 เดินทางมาร่วมรับฟังและทักทายผู้เข้าร่วมประชุมด้วย


ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้มามอบนโยบายเพราะเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศ.ดร.นฤมล ) แต่ตนอยากจะมาทักทายกับผู้บริหารศธ.ซึ่งถือว่าเป็นกระทรวงหลัก ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งแต่ปี 2562 ในฐานะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ และทำงานคู่กับ ศ.ดร.นฤมล มาตลอด และพอมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ จริงๆแล้ว ศ.ดร.นฤมล กำลังจะไปจัดห้องทำงานที่กระทรวง อว. โชคดีได้มาเป็น รมว.ศึกษาธิการ ซึ่ง ศ.ดร.นฤมล คุยกับตนว่ากระทรวงศึกษาฯ น่าจะเป็นกระทรวงที่เราสามารถช่วยเหลือคนไทยให้ได้รับสิ่งดีๆ โดยเฉพาะลูกหลานเรา ก็เป็นความโชคดีที่พรรคกล้าธรรมได้รับโคต้ารัฐมนตรีว่ากระกระทรวงเกษตรและสกหรณ์ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

”ผมก็จะไม่ไปยุ่งกับการบริหารของกระทรวงศึกษาธิการ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเจ้าของพรรคกล้าธรรม ผมไม่ได้เอาตนเองและครอบครัวเป็นหลัก ผมคุยกับ อ.แหม่ม ว่า คนในครอบครัวต้องมาทีหลัง ต้องเอาคนที่มีประสบการณ์ ผมกับ อ.แหม่ม มีชีวิตที่คล้ายๆ กัน มาจากครอบครัวที่ปากกัดตีนถีบ อ.แหม่มได้รับทุนมาตลอด ได้เข้าศึกษาจนจบจุฬาฯ และไปศึกษาต่อเมืองนอกจนเป็นศาสตราจารย์ก็ไม่ทำธรรมดา ก็เหมาะสมกับกระทรวงศึกษาธิการ”

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตนได้ฟังผู้อำนวยการสำนักเขตพื้นที่การศึกษา เสนอถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ตนในฐานะ สส. 3 วัน 3 คืนในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2569 ที่ผ่านมา ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะต้องการให้โหวตงบประจำปี 2569 ผ่านสภาฯ ถ้าไม่ผ่าน ถึงแม้จะใช้ได้แต่แผ่นดินเดินต่อไม่ได้ ดังนั้น ตนและ อ.แหม่มมาจากการเมือง  หนีกันไม่พ้น ระบบบริหารราชการแผ่นดิน นโยบายก็มาจากพวกตนที่กำหนดลงไปในพื้นที่ และนำเสนอรัฐบาล ให้กำหนดนโยบายสำคัญๆ ไม่ว่าจะนโยบายเรื่องการศึกษา เรื่องการเกษตร หรือนโยบายอื่นๆล้วนแล้วมาจากนโยบายพรรคการเมือง เมื่อกำหนดนโยบายออกมาแล้วก็ให้พี่น้องข้าราชการนำไปปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน  มีนักวิชาการหลายคนบอกว่า ไม่อยากให้นักการเมืองมาปกครองบ้านเมือง ต้องการให้ระบบเผด็จการมาปกครองบ้านเมือง แต่ตนมองว่าจะทำให้บ้านเมืองเดินไปไม่ได้ ตนอยู่มาสองรัฐบาล ที่มาจากการรัฐประหาร และเป็นผู้จัดการรัฐบาลในตอนนั้น มันเดินไปไม่ได้ เราต้องเข้าสู่ความเป็นจริงในสังคมไทยและระบอบประชาธิปไตย  และมีสส.ที่มาจากประชาชนเลือกตั้ง แยกกันไม่ได้ ถ้าใครบอกว่าแยกกันได้นั่นคือโกหก  พูดจะเอาสวยเอาหล่อเข้าไว้ แต่สำหรับพวกผมเป็นนักการเมืองตลาดล่าง มองว่าไม่ใช่อย่างนั้น  เรามี อ.แหม่ม ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ  มีปลัดศธ. มีเลขาธิการ 4 ท่าน บริหารงานได้

“งบประมาณของกระทรวงศึกษาผฯจะเห็นว่าสภาฯ ไม่มีใครแตะ เพราะผมประสานเพื่อนสส.ทุกคนว่าอย่าไปเตะกระทรวงเกษตรฯเลย อยากไปแตะกระทรวงศึกษาฯเลย ครูก็ลำบากอยู่แล้ว ชีวิตครูไม่มีใครเข้าใจทุกวันนี้ ถ้าไปถามพี่น้องเกษตรกรใครเป็นหนี้ ยกมือกัน 100%  ถามพี่น้องครู ก็ยกมือ 99% ว่าเป็นหนี้ ซึ่งชีวิตจริงเป็นแบบนั้น ชีวิตครูกับชีวิตเกษตรกร น่าเห็นใจ ผมจึงบอกกับ สส.ว่าอย่าตัดงบเขาเลย เขาเสนอมาน้อย กระทรวงศึกษาธิการเสนอไป 355,000 ล้านบาท แต่กลับดูแลลูกหลานคนทั้งประเทศ ดูแลข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมดประมาณ 1,000,000 คน โชคดีที่มี สส. รุ่นน้องของ อ. แหม่ม ช่วยประคองอภิปรายมา แต่กระทรวงศึกษาฯ ก็ถูกตัดงบไป ประมาณ 94 ล้านบาท ซึ่งในวันอภิปรายงบฯ กระทรวงศึกษาถูกอภิปรายเป็นกระทรวงแรก ผมพยามให้สส.อภิปราวดึงเกมจนถึง 9โมงเช้า จนเสียงโหวตครบ งบฯผ่านสภาได้ ผมกำชับสส.ว่าถ้าอภิปรายงบของกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงศึกษาฯห้ามขาดเด็ดขาด ดังนั้นก็อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง และหากพี่น้องครูบาอาจารย์มีปัญหาได้รับผลกระทบจากพายุทั้งสองลูกที่ผ่านมา พวกเราต้องช่วยกัน ยืนยันว่าอะไรที่สภาหรือรัฐบาลขับเคลื่อนได้ ผมก็จะประสานเพื่อของบฉุกเฉินมาช่วยเหลือ“ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ด้าน ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า มีหลายประเด็นที่ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองฝากมาอยากให้ขับเคลื่อนดำเนินการในกระทรวงศึกษาธิการ แต่ส่วนตัวไม่เคยเป็นครูสอนในโรงเรียน ไม่เคยเป็นผู้บริหารโรงเรียน ไม่เคยทำงานในกระทรวงศึกษาธิการมาก่อน แล้วเราเป็นเทวดามาจากไหนที่จะเดินมาบอกว่า นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ต้องเป็นอย่างนี้ ชี้นิ้วอย่างนี้ เราไม่น่าจะมีความรู้ที่ครอบคลุมขนาดนั้น ถึงแม้จะมีตำแหน่งทางวิชาการก็ตาม แต่ก็เป็นแค่เฉพาะทาง ไม่ได้รู้ทุกด้าน ดังนั้น จึงได้รับฟังเสียงจากทุกแท่งก่อนกำหนดเป็นนโยบาย โดยตั้งใจอยากให้การศึกษาไทยเปลี่ยน  โดยเฉพาะ เรื่องแรก คือ วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ที่ผู้ใหญ่ฝากมา ซึ่งจะมีการปรับตำราเรียน

“ได้มอบให้เลขาธิการ สพฐ. ไปปรับปรุงเนื้อหาในตำราการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง นอกจากนั้นอยากจะให้เพิ่มสัดส่วนในการสอบ ซึ่งนอกเหนือจากสอบจบในโรงเรียนแล้ว ก็อยากจะให้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสอบเข้าศึกษาต่อด้วย ประเทศอื่นๆก็ใช้วิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอกอีกหนึ่งที่ ให้ความสำคัญ ของไทยเราก็อยากจะนำกลับมาใช้ตรงนี้เพิ่มเติม เพื่อที่จะให้ทั้งคู่และนักเรียนหันมาให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นเราก็จะติวกันแต่วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศาตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย จึงอยากจะให้การสอบวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสอบเข้าเรียนต่อชั้น ม.1,ม.4 ด้วย เพราะเด็กต้องเข้าใจมากขึ้นในหน้าที่ของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนจะเริ่มใช้ได้เมื่อใดนั้น ต้องหารือถึงความพร้อมของแต่ละโรงเรียนที่จะนำมาใช้ก่อน แต่ก็อยากให้นำมาใช้ให้เร็วที่สุด“ รมว.ศธ. กล่าว

รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 การลดภาระครู  ตนรับทราบมาตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ากระทรวงศึกษาธิการ ก็เห็นติดที่หน้าประตูกระทรวงว่า เรียนดี มีความสุข แสดงว่าเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่เน้นการพัฒนาตัวเด็ก แต่ตนก็เป็นห่วงว่าจะลืมชีวิตความเป็นอยู่ของครู ก็อยากให้เพิ่ม นอกจากเรียนดีมีความสุข คือ ครูสอนดี ชีวิตครูมีความสุขด้วย เพราะฉะนั้น ก็ต้องฝากเรื่องลดภาระครูด้วย ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีมติให้ตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 621 ตำแหน่ง มากำหนดเป็นตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค(2) ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย 18 แห่ง เพื่อแก้ปัญหา ขาดแคลนอัตรากำลังบุคลากรสายสนับสนุนของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยไปแล้ว และในปลายเดือน ส.ค.นี้ ก็จะได้มาอีก 1,800 ตำแหน่ง ส่วนจะไปลงที่ไหนนั้น จะมีการหารือร่วมกับองค์กรหลักเพื่อจัดสรรบุคลากรสายสนับสนุนให้โรงเรียนต่อไป อย่างกรณีผลกระทบจากพายุวิภา ที่ผ่านมาทำให้ครูต้องมาช่วยทำความสะอาดโรงเรียน ซึ่งเป็นภาระที่หนัก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เวลาพิจารณางบฯต่อไปก็อยากจะเชิญกรรมาธิการงบฯ กรรมาธิการการศึกษา สำนักงบประมาณ หรือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินลงมาดูพื้นที่จริงด้วย เพื่อจะได้เข้าใจปัญหาในพื้นที่ จะได้ไม่ตัดงบเรา 

เรื่องที่ 3 แก้ปัญหาหนี้สินครู ซึ่งหนักอยู่ ทั้งครูที่ยังประจำการอยู่และครูเกษียณ โดยมียอดหนี้รวมกันมากถึง 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งยอดหนี้ครัวเรือนทั่วประเทศไทยครูน่าจะแบกนี้เยอะกว่าเกษตรกร โดยเกษตรกรยังมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แต่ครูไทยเกษียณมามีแต่เงินบำนาญ เงินวิทยฐานะก็ไม่มี ได้เงินเกษียณมาก็ไปจ่ายหนี้หมด ทำให้เราต้องมี “สหกรณ์กลาง สกสค.” ขึ้นมา ซึ่ง ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ก็กำลังดำเนินการอยู่ เพื่อรับโอนหนี้สินครูจากสหกรณ์อื่นมา ไว้ที่สหกรณ์กลาง แต่ต้องมีข้อตกลงร่วมกันไม่ให้ครูไปก่อหนี้อื่นอีก ขณะเดียวกันเราต้องช่วยให้ครูมีรายได้เสริม แต่ไม่อยากให้ครูมีชีพเสริมอย่างอื่น อาชีพครูต้องมีรายได้ที่เพียงพอ ซึ่งที่ทำได้ก็คือ เรื่องวิทยฐานะ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของ ดร.ธนู ขวัญเดช เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ที่จะทำอย่างไรให้ครู ผู้อำนวยการ ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ทุกตำแหน่งมีวิทยฐานะ แยกแต่ละแท่งได้ และการได้วิทยฐานะก็มีความเป็นธรรมกับของแต่ละแท่ง แต่ละสาขา รวมถึงให้พิจารณานำผลงานเชิงประจักษ์มาใช้ในการพิจารณาวิทยฐานะได้ด้วย ซึ่งยอมรับว่าอาจจะมีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ก็ขอให้พิจารณาทบทวนแก้ไขข้อเสียเพื่อที่ครูจะได้ไม่ต้องไปมุ่งทำวิจัย แต่จะได้ไปโฟกัสพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน ก็จะมีกำลังใจในการทำวิทยฐานะมากขึ้น ทั้งนี้ จะมีการประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกคนในวันที่  20 สิงหาคมนี้ เพราะตนไม่อยากให้ออกมาแบบเป็นคำสั่งให้ทำ แต่ต้องการให้เป็นการแก้ปัญหาร่วมกันมากกว่า 

หลังจากนั้น รมว.ศึกษาธิการ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมประชุมนำเสนอปัญหาในพื้นที่เพิ่มเติม โดยมีผู้แทนโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา ได้แจ้งให้ทราบว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบได้รับความเสียหายไม่ต่างจากโรงเรียนของรัฐบาล แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาเลย จึงขอเรียกร้องขอกู้เงินกองทุนสงเคราะห์อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปฟื้นฟูโรงเรียนได้เหมือนตอนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่ง รมว.ศธ. ได้มอบให้เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ไปดูระเบียบกฎหมาย เพื่อเปิดทางให้โรงเรียนเอกชนสามารถกู้เงินอัตราดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนสงเคราะห์ได้ ทั้งนี้ รวมถึงให้ดูแลการแก้ไขกฏหมายเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนนอกระบบด้วย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สมาคมสตรีไทยฯ มอบรางวัล ‘มหาราชินีพระพันปีหลวง’ เชิดชูคุณค่าสถาบันครอบครัว สมาคมสตรีไทยฯ มอบรางวัล ‘มหาราชินีพระพันปีหลวง’ เชิดชูคุณค่าสถาบันครอบครัว
  • ‘รมช.ศธ.’แจงสว. โรงเรียนแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดการสอน-ปิดศูนย์พักพิงแล้ว ‘รมช.ศธ.’แจงสว. โรงเรียนแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดการสอน-ปิดศูนย์พักพิงแล้ว
  • \'กรมทะเล\'ชู\'Green Event\'ลดขยะ-งดโฟม-ลดพลาสติก ภายใต้แนวคิด\'รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง\' 'กรมทะเล'ชู'Green Event'ลดขยะ-งดโฟม-ลดพลาสติก ภายใต้แนวคิด'รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง'
  • \'เสมา 1\'ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฟื้นฟูทำความสะอาดโรงเรียนน้ำท่วม จ.พะเยา 'เสมา 1'ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฟื้นฟูทำความสะอาดโรงเรียนน้ำท่วม จ.พะเยา
  • \'ปลัดศธ.\'เผยหลังสภาฯ โหวตผ่านร่างงบฯ 69 \'ก.ศึกษาธิการ\'ถูกปรับลด 94.3301 ล้าน 'ปลัดศธ.'เผยหลังสภาฯ โหวตผ่านร่างงบฯ 69 'ก.ศึกษาธิการ'ถูกปรับลด 94.3301 ล้าน
  • ‘รมว.นฤมล’ ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ เหยื่อชายแดนไทย–กัมพูชา ‘รมว.นฤมล’ ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ เหยื่อชายแดนไทย–กัมพูชา
  •  

Breaking News

'กองทัพไทย'พาคณะผู้สังเกตการณ์ 8 ชาติ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

'ประเสริฐ'ลุย'โคราช' แก้ไขปัญหาน้ำ-ภัยแล้ง

(คลิป) 'มาดามรถถัง'จัดให้! ส่งยานเกราะ–ทีมช่าง ร่วมศึกชายแดนไทย

ทำคุณบูชาโทษ! เพจดังจวกหลังชาวเขมรอ้างพื้นที่บ้านหนองจานเป็นของตน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved