ลาออกเจ้าอาวาส

‘หลวงพ่ออลงกต’ยังล่องหน

‘สุชาติ’ลุยสอบเส้นทางเงินวัด

เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เผยคำสั่งให้หลวงพ่ออลงกต ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อย่างเป็นทางการมีผลทันที ด้าน“สุชาติ” ชี้หลวงพ่ออลงกต ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ไม่มีผลในการสอบกรณีเงินวัด-มูลนิธิ เหตุเป็นเจ้าพนักงานในขณะมีตำแหน่ง รุดลงพื้นที่ตรวจสอบทุกปม

เมื่อวันที่ 19สิงหาคมผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระธรรมวชิสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่อง ให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง มีใจความว่า ด้วยพระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุนั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2568

เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน พระครูสุวัฒน์กิตติสาร เจ้าอาวาสวัดสระมะเกลือ เจ้าคณะตำบลเขาสามยอด ซึ่งเป็นเจ้าคณะผู้ดูแลวัดพระบาทน้ำพุ ได้เดินทางมาร่วมการประชุมที่วัดพระบาทน้ำพุ โดยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวที่วัด ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อหลวงพ่ออลงกต ได้ ปกติแล้วพระลูกวัดที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาจำเป็นต้องแจ้งเจ้าคณะตำบลหากท่านมีกิจนิมนต์ไปที่ใด

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลวงพ่ออลงกตยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ทางเจ้าคณะตำบล ได้แต่ยิ้มแต่ไม่ตอบคำถามใดๆเมื่อถามว่าได้มีการตั้งรักษาการเจ้าอาวาสแล้วหรือไม่ พระครูสุวัฒน์ กิตติสาร ก็ไม่ตอบคำถามดังกล่าว นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังพยายามสอบถามว่าหลวงพ่ออลงกตมีการแจ้งท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาหรือไม่ ท่านก็ปฏิเสธที่จะตอบอีกเช่นเดิม

ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหลวงพ่ออลงกต ลาออกออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ว่าไม่มีผลอะไร เพราะเจ้าอาวาสคือเจ้าพนักงาน ถึงลาออกแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ถ้ามีการกระทำความผิด ก็ต้องดำเนินการ แต่ทราบว่าการลาออกเพื่อไม่ให้ขัดขวางการสอบสวนเมื่อถามว่าได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ถึงความผิดหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน จะรอฟังการรายงานและติดตามความคืบหน้า โดยเฉพาะเรื่องมูลนิธิ 5-6 แห่ง ที่มีความสงสัยว่าเป็นเทคนิคในการหลบเลี่ยงกรณีการบริจาคเงินวัด การตรวจสอบจึงต้องดูจุดประสงค์จริงๆว่าหลบเลี่ยงหรือไม่ และจะไปดูการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ ว่าการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงการใช้เงินของมูลนิธิ แม้จะไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง

ต่อมานายสุชาติ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบวัดพระบาทน้ำพุ ว่าได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี เพื่อตรวจสอบใน 3 เรื่อง คือเงินสนับสนุนบำรุงวัดจากหน่วยงานภาครัฐ หรือเงินอุดหนุน ที่มาของเงินมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยอยู่เพราะวัดจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมา 5-6 มูลนิธิ เงินเป็นร้อยๆล้านบาท ยังอยู่หรือไม่ โดยเป็นส่วนของกระทรวงมหาดไทย แต่ในส่วนของ พศ.ก็ไปตรวจสอบว่าได้รับงบมาใช้ถูกต้องหรือไม่ เงินบริจาคเข้าวัด ได้ใช้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์หรือไม่

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในฐานะที่ตนกำกับดูแลพศ.ก็ไม่ต้องการให้เกิดวิกฤตความเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก่อนหน้านี้ทราบว่าหลวงพ่ออลงกตจะเป็นผู้แถลงชี้แจงในทุกประเด็น ซึ่งตนก็มารอดูแต่ขณะนี้หลวงพ่อได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว ก็จะประสานให้หลวงพ่อชี้แจงกับสื่อมวลชนอีกครั้ง

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการโอนคืนที่ดิน 33 แปลง ซึ่งผู้ครอบครองเป็นบุคคลใกล้ชิดของหลวงพ่ออลงกตใน จ.ลพบุรีนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจในการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทย และตนก็ยังไม่เห็นหลักฐาน จึงไม่สามารถตอบเรื่องนี้ได้สำหรับกระแสข่าวที่ว่าวัดพระบาทน้ำพุมีอิทธิพลในพื้นที่ นายสุชาติ กล่าวว่า วัดสามารถมีอิทธิพลได้ด้วยเหรอ ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้ ถ้าสื่อมวลชนมีข้อมูลในเชิงลึก ก็สามารถส่งมาได้ ตนจะดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ให้ด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) กล่าวถึงกรณีนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ซึ่งเปิดบัญชีรับบริจาคในนามมูลนิธิของวัดพระบาทน้ำพุ ว่าได้ข้อมูลเส้นทางการเงินหรือบัญชีต่างๆ เพิ่มเติมแล้ว แต่ต้องขอเวลาในการตรวจสอบโดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปขอข้อมูลต่างๆ ที่วัด แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือนัก เช่น การขอบัญชีรายละเอียด หรือเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็มีการรับปากว่าจะส่งมอบให้ แต่ก็ยังไม่ได้ส่งมอบ ซึ่งก็เป็นสิทธิที่วัดจะสงวนข้อมูล แต่เจ้าหน้าที่ก็มีวิธีการ หรือช่องทางอื่นๆ ที่จะได้มาซึ่งข้อมูลอยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่มีนักการเมือง เข้ามากดดันการทำคดีนั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวยืนยันว่า ไม่มีใครมากดดัน ขอให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรมาทำให้การสอบสวนหยุดชะงักได้ และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย