ตำรวจ บก.ปคบ.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB บุกทลายเครือข่ายยาทำแท้งออนไลน์ ลุยค้น 3 จุด จับกุม 7 ผู้ต้องหา ยึดยาทำแท้งและชุดทดสอบการตั้งครรภ์ กว่า 3 พันชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท 

วันนี้ (21 ส.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้  พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พ.ต.อ.วีระพงษ์  คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ.นำกำลัง เปิดปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายลักลอบขายยาทำแท้งผิดกฎหมาย โดยเข้าตรวจค้น 3 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 7 ราย ยึดยาทำแท้ง ยาและอุปกรณ์อื่นๆ รวม 3,138 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

สำหรับการเปิดปฏิบัติการดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตามสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเซียลมีเดียว่า มีผู้สั่งซื้อยาทำแท้งที่จำหน่ายบนสื่อออนไลน์นำมาใช้ยุติการตั้งครรภ์ จนเกิดอาการมดลูกแตก หรือมดลูกบีบรัดตัวอย่างรุนแรง เสียเลือดจนเสี่ยงถึงการเกิดภาวะช็อค ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อย่างเร่งด่วน โดยการซื้อยาออนไลน์เพื่อยุติการตั้งครรภ์นั้นทำให้ผู้ใช้เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะไม่ได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้องจากแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ บางรายไม่ทราบอายุครรภ์ที่ชัดเจน ใช้ยาไม่ถูกต้องตามวิธิการและปริมาณ ทำให้อันตรายจากการใช้ยาถึงขั้นเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้เร่งติดตามและเฝ้าระวัง ก่อนจะสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐาน จนทราบถึงกลุ่มผู้กระทำความผิด ที่ลักลอบจำหน่ายยาทำแท้งผ่านทางออนไลน์โดยผิดกฎหมายในพื้นที่ต่าง ๆ และได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหา รวม 7 ราย

ต่อมาในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดลำพูน เข้าตรวจค้นสถานที่ 3 แห่ง จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ 7 ราย และตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาผิดกฎหมาย ดังนี้ 1.น.ส.น้ำอ้อย (สงวนนามสกุล)  อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” 2.นางลำภา (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต”  3.น.ส.ศิรินภา (สงวนนามสกุล) อายุ38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” 

 4.น.ส.รั่นทม (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตและขายยาโดยมิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” 5.น.ส.พัชรีพร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” 6. นาย นันทวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” และ 7.น.ส.ไลพอน (Ms.LAYPHONE) อายุ 28 ปี สัญชาติลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา“ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตและขายยาโดยมิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” 

พร้อมกันนั้นได้ยึดของกลาง ได้แก่ 1.ยาบรรจุอยู่ภายในแผง ระบุชื่อยา CYTOTEC 200 mcg จำนวน 300 เม็ด 2.ยาบรรจุอยู่ภายในแผง ระบุชื่อยา Mitepristone Tablets 200 mg จำนวน 860 เม็ด 3.ผลิตภัณฑ์ยา Misoprostol Tablets ( Evron Miso-200 ) 200 Mcg จำนวน 36 เม็ด 4.ผลิตภัณฑ์ยา Mipphease Tablets (Mifepristone 25 mg) จำนวน 210 เม็ด 5.ผลิตภัณฑ์ยา Mithoease Tablets (Mifepristone 25 mg) จำนวน 11 เม็ด c]t6.ผลิตภัณฑ์ยาอื่น ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ อาหารหารเสริมและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง รวมของกลาง จำนวน 16 รายการ รวม 3,138 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ส่วนพฤติการณ์ในการจำหน่ายยาทำแท้งของผู้ต้องหาทั้งหมด จะใช้การโฆษณาขาย ยาทำแท้ง ยาสอด ยาขับประจำเดือน ยาขับเลือด ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ บางเว็บไซต์ มีข้อความระบุว่า มีแพทย์หญิงบริการพร้อมให้เบอร์โทรศัพท์สำหรับให้คำปรึกษาในการใช้ยาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น มีการปกปิดสถานที่จัดส่ง สถานที่จัดเก็บยา ใช้บัญชีม้าเป็นบัญชีรับโอนเงินค่ายา เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนจับกุมของเจ้าหน้าที่ บางรายไม่เก็บสินค้าไว้กับตนเอง ใช้วิธีการนำยาทำแท้งฝากไว้ที่บริษัทขนส่ง เมื่อมีผู้สั่งซื้อจะส่งข้อมูลรายละเอียดในการจัดส่งไปที่บริษัทขนส่งเพื่อจัดส่งให้กับประชาชนทั่วไปที่สั่งซื้อ โดยทางตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.จะได้เร่งสืบสวนขยายผลการจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท”

พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า ขอฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ฝากความห่วงใยถึงประชาชน อย่าซื้อยาที่มีการโฆษณาขายทางสื่อออนไลน์ แม้ปัจจุบันการยุติการตั้งครรภ์หรือการทำแท้งในประเทศไทยนั้นถูกกฎหมายแต่ต้องกระทำโดยอยู่ในเงื่อนไขตามที่บัญญัติไว้ และสามารถทำได้ในบางกรณีเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การสั่งซื้อยาทำแท้งจากแหล่งต่างๆ มาดำเนินการด้วยตนเองนั้น ถือเป็นการเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต และอันตรายต่อทั้งผู้ใช้และทารกที่อยู่ครรภ์ การใช้ยาทุกชนิดควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง หากพบเห็นการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือทางเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

015