ปลัดกระทรวงเกษตรฯ มอบแนวทางการพัฒนาศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช และการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรฯ โดยใช้แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ในระดับจังหวัดฯ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรทั่วประเทศ
วันนี้ (21 ส.ค.) นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ โดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัด พร้อมบุคลากรสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมการประชุมกว่า 120 คน ว่า กระทรวงเกษตรฯ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม 2568 ที่ จ.นครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับภูมิภาค 2 เรื่อง คือ 1) การพัฒนาศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช เพื่อขอรับรองเป็นศูนย์ราชการสะดวก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้เกษตรกรที่มารับบริการหรือขอรับการช่วยเหลือ สร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกร และขยายผลเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยเริ่มต้นจากงานบริการของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด อาทิ การบริการข้อมูลการเกษตร การร้องเรียน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ/กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ฝนหลวง ภัยธรรมชาติ เกษตรพันธสัญญา การประชาสัมพันธ์การเกษตร เป็นต้น และ 2) การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรฯ โดยใช้แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ในระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัดภายใต้แผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่ มีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นประธานคณะทำงานประเด็นการพัฒนาจังหวัดด้านการเกษตร
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ กำหนดนโยบายและแนวทางในการขับเคลื่อนงานที่สำคัญ ประกอบด้วย 1) ผลักดันการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2) เร่งขับเคลื่อนนโยบายของ รมว.เกษตรฯ 9 นโยบาย 8 ข้อสั่งการ อาทิ การเร่งขยายผลการขับเคลื่อนศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช เป็นต้น 3) การสนับสนุนการตรวจราชการนอกสถานที่และการประชุม ครม. สัญจรของ รมว.กษ. และ รมช.กษ. 4) การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้การทำงานของกระทรวง ทั้งส่วนกลางและจังหวัด เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ 5) การเตรียมการรองรับและการแก้ปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร
“การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรฯ ต้องอาศัยการประสานและบูรณาการงานจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งการจัดเวทีประชุมบุคลากร สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” นายประยูร กล่าว
นายประยูร กล่าวอีกว่า ในวันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การขับเคลื่อนงานตามนโยบายของแต่ละจังหวัด ซึ่งแตกต่างกันไปตามบริบทของพื้นที่ สามารถนำไปปรับใช้ในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายได้ตามความเหมาะสม รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช เพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์ราชการสะดวก เพื่อสร้างความประทับใจ
ความพึงพอใจแก่เกษตรกรที่มารับบริการ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญของการสนับสนุนช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาแก่เกษตรกร รวมถึงให้ความสำคัญต่อการใช้แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ในระดับพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาการเกษตรได้เร็ว ตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น” ปลัดเกษตรฯ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเวทีเสวนาโอกาสทางการตลาดสินค้าเกษตรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ไทย ลาว เวียดนาม จีน ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นจุดผ่านแดนที่สำคัญ เนื่องจากมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เชื่อมไปยังลาว เวียดนาม จีน ที่ใกล้ที่สุด ทั้งที่หนองคาย มุกดาหาร นครพนม ช่องเม็ก-อุบลราชธานี รวมถึงสะพานแห่งใหม่ที่บึงกาฬ มีภาคเอกชนที่ส่งสินค้าเกษตรไปลาว เวียดนาม และจีน มาเล่าประสบการณ์ และแนวโน้มความต้องการสินค้าของตลาด รวมถึงจะได้ศึกษาดูงานการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ณ ด่านศุลกากรนครพนมด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนนโยบายตลาดนำการผลิต และการกำหนดแผนพัฒนาด้านการเกษตรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อไป
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี