ถูกจับยักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ
‘อลงกต’สึกแล้ว!
ประเคนหนักอีกหลายข้อหา
ฟอกเงิน-ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
‘หมอบี’เจอตำรวจรวบด้วย
ฐานสนับสนุนกระทำความผิด
กองปราบฯบุกรวบหลวงพ่ออลงกต-หมอบี กลางดึก ผิดยักยอกทรัพย์-ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ฯ-ฟอกเงิน ส่วน “บิ๊กเต่า”เผยชิงจับกลางดึกเหตุมีพฤติการณ์หลบหนีเจ้าตัวยังปัดข้อหา คุมตัวสอบเข้ม ยอมสึกต่อสู้คดี
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี สว.กก.1 บก.ป.นำกำลัง เข้าจับกุมพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟอกเงินและสบคมโดยการตกลงกันตั้งแต่2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน จับกุมได้ที่ใจฟ้าอคาเดมี หมู่ 6 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี
ทั้งนี้ เนื่องจากมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่าหลวงพ่ออลงกต ทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย ซึ่งต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ส่วนทางพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ระบุว่า คดีนี้นอกจากหลวงพ่ออลงกต แล้ว ยังมีหลักฐานอีกหลายส่วนและอีกหลายประเด็นที่ต้องดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะกับบุคคลใกล้ชิดที่อาจเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดด้วย
มีรายงานข่าวว่าในช่วงการเข้าจับกุมหลวงพ่ออลงกต ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่า หลวงพ่ออลงกต ได้เตรียมหลบหนี โดยช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ได้ขึ้นรถแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเข้าแสดงตัวและจับกุมตามหมายจับศาลฯ ซึ่งจากการตรวจค้นภายในรถ ยังพบเงินสดหลักแสนบาท กระจายอยู่ตามกระเป๋าต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งขยายผลว่าเงินสดดังกล่าวกำลังถูกนำไปใช้ทำอะไร
จากนั้นเวลา 02.20 น.กำลังตำรวจ กก.1 บก.ป.ได้เข้าจับกุมนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ ‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ที่บ้านพักย่านจตุจักร กทม.ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เบียดบังยักยอกทรัพย์ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและร่วมกันฟอกเงินโดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.ซึ่งหมอบี มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด และปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 08.00 น.กำลังตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และป.ป.ช.รวมทั้ง สตง.เข้าตรวจค้นภายในอาคารโรงเรียนนาถะศาสตร์ ภายในพื้นที่ใจฟ้าฟาร์ม ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี ในความดูแลของหลวงพ่ออลงกต เพื่อตรวจสอบเอกสาร ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ บริเวณชั้น 4-5 ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงกับเงินบริจาค รวมถึงกรณีการทุจริตยักยอกเงิน โดยมี น.ส.กอแก้ว เพชรบุตร ผอ.โรงเรียนดังกล่าว เป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น
สำหรับการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบดูเส้นทางการเงิน สลิปการโอนเงิน ซึ่งพบว่ามีเงินบริจาคเข้ามาในมูลนิธิเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นยอดเงินเท่าไร
ขณะเดียวกัน ที่วัดพระบาทน้ำพุ กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วน ได้เข้าตรวจค้นอาคารรับบริจาคเงิน และอาคารต่างๆ พร้อมตรวจสอบเอกสารการรับบริจาคเงิน โดยมีพระครูสุวัฒน์กิตติสาร เจ้าคณะตำบลเขาสามยอด รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และนายสมพร โสมะเค็ง ไวยาวัจกร เป็นผู้ที่นำตรวจค้น ซึ่งการตรวจค้นดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพื้นที่วัดพระบาทน้ำพุ 5 จุด มีทั้งสนามกีฬาใจฟ้าประชานาถ และพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งตรวจค้นเป้าหมายใน กทม. รวมทั้งหมดแล้วมี 17 จุด ซึ่งจะดูเรื่องเอกสารการบริจาค เส้นทางการเงินว่ามีความผิดปกติอย่างไร
พระครูสุวัฒน์กิตติสาร เปิดเผยว่า อาตมาเพิ่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้เพียง 2 วัน ยังไม่ได้ดูว่าสิ่งของภายในวัดมีอะไรบ้าง เพียงแต่เตรียมตัวที่จะทำความสะอาด จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้น อาตมาก็ยินดีให้ตรวจสอบทุกเรื่อง ขณะนี้เป็นห่วงเพียงว่าต่อไปนี้วัดคงไม่มีใครเข้ามาบริจาคหรือทำบุญ สิ่งของต่างๆ ก็จะหมดไป ผู้ป่วยร้อยกว่าชีวิตที่อยู่ในวัดไม่รวมธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 จะอยู่กันอย่างไร หรือจะอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่ ซึ่งจะเป็นปัญหาเพราะผู้ป่วยไม่ค่อยมีใครเอากลับไปบ้าน เพราะคงเป็นที่รังเกียจ
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขให้มาดูแล ตนเป็นเพียงรักษาการเจ้าอาวาส หากเข้าสู่สภาวะปกติแล้วก็จะให้ผู้ที่มีความสามารถ เข้ามาดำเนินการแทน แต่ระหว่างนี้อาตมายืนยันว่าจะไม่ทิ้งผู้ป่วย
ด้านนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผวจ.ลพบุรี กล่าวว่าหลังจากตำรวจกองปราบปราม เข้าจับกุมหลวงพ่ออลงกต และคุมตัวไปสอบสวนแล้ว ทางจังหวัดได้มอบหมายให้ รอง ผวจ.ลพบุรี และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่วัดพระบาทน้ำพุ พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการบริหารงานของวัดรวมถึงการเงินของวัด ยอดผู้ป่วยและทรัพย์สินต่างๆ ด้วย
“ขณะนี้ได้รับข้อมูลการตรวจสอบมูลนิธิ5 มูลนิธิของวัดแล้วพร้อมกับตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษ5 ชุด เพื่อตรวจสอบในเชิงลึกแต่ละมูลนิธิเนื่องจากพบว่ามีข้อสังเกตในหลายจุดจึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญทุกด้านมาตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนจะใช้เวลานานเพียงใดยังไม่สามารถกำหนดได้แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด เพราะทั้ง 5 มูลนิธิ มีทรัพย์สินจำนวนมาก” ผวจ.ลพบุรี กล่าว
ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวหลวงพ่ออลงกต มาสอบปากคำ ได้มีการถวายอาหารเช้า ซึ่งหลวงพ่ออลงกต มีท่าทางอิดโรย ร่างกายผ่ายผอม สามารถฉันอาหารได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต่อมา พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับหลวงพ่ออลงกต เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนการเข้าจับกุมตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น.เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวลักษณะพยายามหลบหนี จึงจับกุมในยามวิกาล แม้ไม่ใช่วิสัยที่จะปฏิบัติของตำรวจ แต่หากพบผู้ต้องหากำลังหลบหนีก็จับกุมได้ทันที
ส่วน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า ในการสอบปากคำหลวงพ่อยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยทางพนักงานสอบสวนได้เน้นสอบปากคำเรื่องเส้นเงินที่พัวพันกับบัญชีวัด ส่วนเรื่องการลาสิขา เบื้องต้นหลวงพ่อยังปฏิเสธ ก็เป็นสิทธิ แต่เมื่อถึงเวลาคุมตัวไปฝากขังต่อศาล ทางศาลจะเป็นผู้สั่งให้เจ้าตัวลาสิกขา และใส่ชุดขาวเข้าเรือนจำเอง
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีรายงานว่าหลวงพ่ออลงกตได้ยินยอมที่จะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว พร้อมกับเปลี่ยนไปสวมใส่ชุดขาว เพื่อเข้าสู่การดำเนินคดีและต่อสู้คดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี