สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ส่งมอบระบบซอฟต์แวร์ “แผนที่เรือนจำสามมิติ (Interactive 3D Mapping)” ให้กับ 10 เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ เพื่อยกระดับระบบการควบคุมเรือนจำให้ทันสมัย ภายใต้แนวคิด Smart Prison ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนำร่องในมิติของการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยในเรือนจำและสถานที่ควบคุม

วันที่ 25 สิงหาคม 2568 พลเอก ดร.ชรัติ อุ่มสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เป็นผู้ส่งมอบระบบซอฟต์แวร์ฯ ให้กับ นายอิศรพงษ์ เทศะภู นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับมอบ พร้อมทั้งได้รับเกียรติจาก พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เป็นสักขีพยานในการส่งมอบ ณ ห้องนิทรรศการศูนย์การเรียนรู้ด้านการวิจัย ชั้น 1 สทป.

ระบบซอฟต์แวร์ “แผนที่เรือนจำสามมิติ (Interactive 3D Mapping)” ที่ส่งมอบนี้ สามารถใช้งานได้กับทั้งระบบ Windows และ Android โดยใช้เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ระบบดังกล่าวถูกพัฒนา in-house โดยทีมนักวิจัยของ สทป. ทั้ง 100% เริ่มตั้งแต่การออกแบบภาพรวมระบบ การถอดแบบ 3 มิติ การจัดทำฐานข้อมูล การเขียนโปรแกรม การประกอบรวม Software เข้ากับ Hardware การจัดทำ Use Case ในรูปแบบของฟังก์ชันและแผนเผชิญเหตุ และการทดสอบการใช้งานโปรแกรมในท้ายที่สุดแล้ว เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงของกรมราชทัณฑ์ในทุกมิติ ทั้งด้านการฝึกซ้อม การเผชิญเหตุฉุกเฉิน และการบริหารจัดการเชิงพื้นที่

โดยแต่ละแผนที่ถูกออกแบบให้สะท้อนถึง “อัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละเรือนจำ” เพื่อให้สามารถจำลองภาพพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ เสมือนจริง และตอบสนองต่อการใช้งานได้ทันที อีกทั้งการใช้งานผ่านแว่นตา Virtual Reality (VR) จะสามารถเปิดมุมมองทั้ง 360 องศา ช่วยให้เจ้าหน้าที่บริหารจัดการพื้นที่อาคารในภาพรวม หรือเดินเข้าไปในอาคารเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน ใช้ฝึกซ้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ยังได้ออกแบบซอฟต์แวร์ให้มีขนาดข้อมูลที่เหมาะสม สามารถรองรับการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีในอนาคต และยังช่วยลดภาระพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในการใช้งานระยะยาวอีกด้วย

การส่งมอบครั้งนี้  ไม่เพียงเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยของเรือนจำและสถานที่ควบคุม แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าภาครัฐของ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมเพื่อตอบสนองต่อภารกิจสำคัญของประเทศในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง