เตือนไทยฝนหนัก  20จว.พร้อมรับมือ  ‘เลย’น้ำไหลล้นอ่าง  นครพนมถนนขาด

เตือนไทยฝนหนัก 20จว.พร้อมรับมือ ‘เลย’น้ำไหลล้นอ่าง นครพนมถนนขาด

วันจันทร์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กรมอุตุฯเตือน 20 จังหวัดเฝ้าระวังฝนตกหนัก ทำน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ด้าน ปภ.ระดมช่วยเหลือ ชี้ยังมีอุทกภัย 4จังหวัด กระทบ 2,686 ครัวเรือน ส่วน จ.เลย น้ำล้นอ่างฯ ครั้งแรกในรอบหลายปี จ.นครพนม ถนนขาด ขณะที่ จ.มุกดาหาร น้ำท่วมเขตเทศบาลฯ เหตุคลองระบายน้ำไม่ทัน

เมื่อวันที่ 31สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ กับมีลมแรง ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ น่านตอนล่าง แพร่ ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร ลำพูน เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน


สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนบนระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ช่วงวันที่ 1-2 กันยายน 2568

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน“หนองฟ้า” ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือ

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ไปยังพื้นที่ 4จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และเลย เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่และยังคงตกต่อเนื่อง ให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง และติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และขอให้จังหวัดใช้กลไกของท้องถิ่นและท้องที่แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์รวมถึงประเมินสถานการณ์ภัย ทั้งอุทกภัยและภัยจากดินโคลนถล่มอย่างใกล้ชิด หากพบว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ให้อพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงหรือพื้นที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องรอให้เกิดสถานการณ์

นอกจากนี้ต้องเฝ้าระวังจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท้ายน้ำ และจังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆ ให้เตรียมพร้อมรับมวลน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและนอกแนวคันกั้นน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณภัยไว้ในพื้นที่เสี่ยง จัดทำแนวป้องกันน้ำท่วมโดยเฉพาะพื้นที่เขตชุมชน โรงพยาบาล และพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ รวมทั้งดูแลป้องกันระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา และระบบสื่อสาร เพื่อป้องกันและลดผลกระทบความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนพื้นที่ซึ่งยังมีอุทกภัย มี 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย และพิษณุโลก รวม 8 อำเภอ 23 ตำบล 71 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,686 ครัวเรือน 5,450คน โดยจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลาย ให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย จัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ปภ.ยังคงเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด หากจังหวัดต้องการการสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพิ่มเติม ขอให้ประสานมายัง ปภ. ทันที เพื่อจะได้สนับสนุนการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ทันสถานการณ์

ที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้หลายพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะ อ.ภูหลวง ส่วนอ่างเก็บน้ำเลย พื้นที่บ้านสวนปอ ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง มีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มก่อสร้างอ่างฯ ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมอาคารควบคุมการระบายน้ำ และบ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 2 หมู่บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเลยได้รับผลกระทบ

ขณะที่ถนนสายบ้านหนองขอนแก่น-บ้านสวนปอ ถูกน้ำท่วมสูง รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ คาดว่าเป็นสถานการณ์น้ำสูงสุดในรอบ 3-4ปี ในพื้นที่ อ.ภูกระดึง น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านใน ต.ศรีฐาน ระดับน้ำสูงบนเส้นทางบ้านทานตะวัน-บ้านนาน้อย และบ้านห้วยเดื่อ รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้

ส่วน อ.ภูเรือ ก็ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนสายเศรษฐกิจในพื้นที่บ้านหนองบัว ขณะเดียวกัน อ.ท่าลี่ ฝนตกหนักต่อเนื่องส่งผลให้หน้าดินถูกกัดเซาะ เสาไฟฟ้าแรงสูง 3 ต้นล้มขวางถนนสายอาฮี-ด่านซ้าย บริเวณบ้านหนองปกติซึ่งทางราชการอยู่ระหว่างเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.ภูหลวงและ อ.ภูกระดึง ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ริมลำห้วย พื้นที่ลุ่มต่ำ และเชิงเขา เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยกของขึ้นที่สูง และดูแลกลุ่มเปราะบาง

ที่ จ.นครพนม บริเวณบ้านหนองเปง หมู่ 6 ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม เกิดเหตุถนนถูกตัดขาดเส้นทางผ่านห้วยกุดปลาดุก เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกหนักจนดินและท่อระบายทรุดตัว โดยฝนตกหนักเกิดจากอิทธิพลพายุดีเปรสชั่น “หนองฟ้า” ซึ่งทางนายรันตรี สุโพเนิน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ถนนสายนี้ใช้ท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) แบบวางคู่ 2 แถว แต่ไม่สามารถรองรับน้ำหลากได้ทันช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้ถนนขาด จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงโดยเปลี่ยนเป็นท่อระบายน้ำแบบบล็อกปูน

นายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม กล่าวว่า ได้ส่งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ พร้อมประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 ติดตั้งสะพานแบรี่ชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และประสานเทศบาล ต.ฝั่งแดงเข้าสำรวจความเสียหายเพื่อของบประมาณซ่อมแซมถนนถาวร พร้อมเตรียมย้ายเสาไฟฟ้าออกจากจุดเสี่ยง สำหรับสภาพอากาศใน จ.นครพนม ยังคงได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจากการอ่อนกำลังของพายุดีเปรสชั่น “หนองฟ้า” ปริมาณฝนหนักที่สุด คือ อ.เรณูนคร มีปริมาณ125.0 มิลลิเมตร (มม.) รองลงมาคือ อ.ธาตุพนม 112.1มม.และ อ.ปลาปาก 105.3 มม.ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นเป็น 9.97เมตร สูงขึ้นจากเดิม 18เซนติเมตร

ส่วนที่ จ.มุกดาหาร นายอดุลย์ ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่นำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือประชาชนในซอยศรีประเสริฐ 3 และ 4 ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงถึงเอว หลายครอบครัวต้องอพยพ ส่วนถนนศรีบุญเรืองบริเวณด้านข้างร้านเบียร์สดถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่ชุมชนศรีบุญเรือง ซอย 7 เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออก ด้านซอยศรีประเสริฐ 2-4 ซึ่งอยู่ติดคลองระบายน้ำโยธาธิการ น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคลองดังกล่าวรับน้ำจากคลองหินอ่างและคลองร่องปอ ก่อนจะไหลลงสู่ห้วยแข้ด้านหลังสำนักสงฆ์หนองพุทธโคตร แต่ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นทำให้น้ำเอ่อเข้าห้วยแข้ น้ำระบายได้ช้าจนท่วมขังชุมชน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันฯ ได้นำกระสอบทรายกั้นรอบบ้านเรือนและจัดทำแนวกั้นชั่วคราวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมยานพาหนะ พร้อมทั้งประสานขอเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งช่วยเหลือโดยเทศบาลเมืองมุกดาหารจัดตั้งทีมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง หากฝนยังตกต่อเนื่องมีความเป็นไปได้ที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศทางราชการอย่างใกล้ชิด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top