สถานการณ์น้ำป่าสักยังไม่จบ แม้ระดับน้ำหลายจุดเริ่มลด แต่พื้นที่ท้ายอำเภอหล่มสักยังวิกฤต ปภ.แจ้งเตือนประชาชน 3 ตำบลเสี่ยงสูง ให้รีบอพยพสิ่งของขึ้นที่สูงและเฝ้าระวังใกล้ชิด หลังบางจุดยังมีระดับน้ำเกินมาตรฐาน

วันที่ 2 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำป่าสัก พบว่า  ระดับน้ำที่ฝายศรีจันทร์ ตำบลท่าอิบุญ ลดลงต่อเนื่องจนพื้นที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ ฝายบ้านวังร่อง ระดับน้ำลดลง 0.65 เมตร แต่ยังสูงกว่าสันฝายถึง 3.35 เมตร ซึ่งยังอยู่ในระดับวิกฤต

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ สะพานตาลเดี่ยว ยังคงวิกฤตที่สุด โดยระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่งถึง 0.50 เมตร และจัดอยู่ในระดับเตือนภัยสีแดง ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำอย่างตำบลตาลเดี่ยว หนองไขว่ และปากดุก ยังคงมีน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน

กระทั่ง ปภ.ได้ออกประกาศเตือนด่วน ถึงประชาชนในพื้นที่ท้ายลำน้ำ ได้แก่ ตำบลปากดุก ลานบ่า และห้วยไร่ ให้รีบเคลื่อนย้ายทรัพย์สินและอพยพกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยทันที

จากการลงพื้นที่พบว่า หมู่บ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำป่าสักยังคงท่วมสูง โดยเฉพาะที่ หมู่ 6 ตำบลปากดุก ที่ชาวบ้านอย่าง นายชัยภัทร ชูพรม ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวต้องพึ่งพาญาติในการช่วยเหลือ เนื่องจากอพยพลำบาก

โดย นายวิทยา อ้นที หัวหน้ากองเรือกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก เปิดเผยว่า ระดับน้ำโดยเฉลี่ยยังสูงอยู่ที่ 50-80 เซนติเมตร และระบุว่าสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ น้ำดื่มและอาหาร ส่วนการอพยพครั้งใหญ่จะมีการประเมินอีกครั้งในช่วงค่ำวันนี้ หากระดับน้ำยังไม่มีแนวโน้มลดลง

ขณะนี้ หน่วยงานช่วยเหลือกว่า 23 แห่ง ได้แก่ ทหาร ตำรวจ เทศบาล และมูลนิธิอาสากู้ภัย ได้บูรณาการกำลังร่วมกัน พร้อมเปิด โรงครัวสนาม 5 จุด เพื่อแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ประสบภัยแล้วกว่า 11,000 กล่อง โดยเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านริมลำน้ำเตรียมพร้อมรับมือตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากยังมีเมฆฝนปกคลุมพื้นที่อยู่ ///-026