‘บิกเต่า’ตามไล่ขยี้

จ่อเรียกอดีตผอ.พศ.สอบ

ดารา-นักแสดง-ตลกด้วย

พ่อหมอบีให้ปากคำตำรวจ

“บิ๊กเต่า” ยันเดินหน้าต่อเนื่องเอาผิด “อลงกตการละคร” เผยวงดนตรีดังเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว จ่อเรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดี ทยอยเรียกดารา นักแสดง อดีต ผอ.พศ. สอบปากคำ ด้านพ่อหมอบี เข้าพบตำรวจให้ปากคำปมรับโอนรถตู้จากหมอบี ส่วนเครือข่ายอดีตพระอลงกต ใช้คนถือที่ดินแทน

เมื่อวันที่ 2กันยายน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีอดีตพระอลงกต และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และทั้งสองยังถูกดำเนินคดีในข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากสมาชิกวงดนตรีออร์เคสตราชื่อดัง ซึ่งเป็นวงดนตรีในตำนานยุคเก่า เพื่อเข้าให้ข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเล่นดนตรีให้กับวัด โดยเฉพาะข้อมูลการโอนเงิน 400,000-500,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นการโอนจากคนใกล้ชิดหลวงพ่อโดยตรง ไม่ได้ผ่านทางวัด

รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยเบื้องต้นพบว่าข้อมูลยังไม่ชัดเจน จึงต้องรอให้บุคคลที่เกี่ยวข้องนำเอกสารทางการเงิน เช่น สเตรทเมนต์การโอนเงิน มาชี้แจงอย่างละเอียดภายในสัปดาห์นี้ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นการเล่นดนตรีจริงหรือไม่ และมีการจ้างงานกันอย่างไร โดยเชื่อว่าการกระทำนี้เกิดขึ้นมานานกว่า10ปีแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมออกหมายเรียกพยานบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งดารา นักแสดง ตลกชื่อดัง และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน โดยจะเรียกเข้าให้ปากคำในฐานะพยานเพื่อประกอบการพิจารณาคดี

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวย้ำว่าการตรวจสอบเส้นทางการเงินในคดีนี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคดีมีความเสียหายสูงมาก เพราะเงินบริจาคบางส่วนไม่ได้เข้าวัดทั้งหมด แต่เข้าสู่บัญชีของบุคคลใกล้ชิดและประชาชนบางส่วนผ่านโครงการรับตู้บริจาค ซึ่งอาจจะมีการแบ่งผลประโยชน์กัน 70/30 หรือรูปแบบอื่นๆ ดังนั้นในสัปดาห์นี้ชุดคลี่คลายคดีจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนการบริหารจัดการคดีให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเอกสารและข้อมูลมีจำนวนมากมายมหาศาล ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้คดีล่าช้าไปกว่าเดิม

รอง ผบช.ก.กล่าวว่าแม้ว่าเอกสารจะมีจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รู้สึกกังวลเนื่องจากทั้งตัวอดีตพระอลงกตและหมอบีไม่ได้รับการประกันตัวอยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีอื่นๆ ที่จะมีการเปิดเผยเป็นประเด็นใหม่ ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยเร็ว โดยเฉพาะกรณีการยืมเงินจากวัด หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเงินวัดจริง ผู้ให้ยืมเงินไปก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ส่วนผู้ยืมจะต้องไปตรวจสอบเจตนาว่าตั้งใจที่จะยืมเงินวัดจริงหรือไม่ ถ้าหากตั้งใจยืมเงินวัดจริงก็จะมีความผิดเช่นกัน

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม(รอง ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบเครือข่ายทุจริตยักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ว่าพนักงานสอบสวนได้เรียกบิดาของหมอบี เข้ามาสอบปากคำแล้ว ในฐานะเป็นบุคคลใกล้ชิดที่หมอบี ได้โอนรถตู้ไปให้ถือครอง ซึ่งจากการสอบปากคำ ตำรวจได้ตั้งข้อสังเกตว่าพฤติการณ์ของหมอบี ในลักษณะการโอนทรัพย์สินไปให้คนใกล้ชิดเพื่อต้องการหาช่องทางให้ตัวเองพ้นผิด เมื่อทราบว่ากำลังถูกตำรวจตรวจสอบทรัพย์สิน ส่วนบิดาของหมอบี จะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ

สำหรับการตรวจสอบคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต ที่มีชื่อถือครองโฉนดที่ดิน รอง ผบก.ป.ระบุว่า ตำรวจพบข้อมูลว่าอดีตพระอลงกตมีความชอบและสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่ดินอยู่แล้ว จึงให้คนใกล้ชิดไปซื้อที่ดินมาถือครองไว้เพื่อทำกำไร และหากขายที่ดินก็จะนำเงินมาให้อดีตพระอลงกต สำหรับทรัพย์สินที่ยึดอายัดได้จากเครือข่ายนี้ เช่น เงินสด โฉนดที่ดิน ทางพนักงานสอบสวนได้ทำรายงานการยึดทรัพย์สินบางส่วนให้เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ซึ่งทราบว่าขณะนี้ ปปง.อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากว่าหลังจากนี้แล้วตำรวจยังตรวจสอบพบทรัพย์สินอื่นๆ อีก ก็จะส่งไปให้ ปปง.ตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป

มีรายงานข่าวว่า ตามที่มีการกล่าวถึงบุคคลที่อ้างว่ามีสัมผัสวิเศษมองเห็นกรรมของผู้คน ได้ออกเรี่ยไรเงินไปซื้อทองเพื่อสร้างเจดีย์ พร้อมกับมีการเปิดชื่อเจนจิรา เรียบร้อยเจริญ หรือ‘เจน ญาณทิพย์’ ซึ่งกำลังเดินตามรอยหมอบี แต่จะมีความเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าวหรือไม่นั้นยังไม่มีการยืนยันชัดเจน

สำหรับ‘เจน ญาณทิพย์’ เป็นที่รู้จักในฐานะพิธีกรรายการคนอวดผี ซึ่งมีเนื้อหารายการเกี่ยวกับความเชื่อเร้นลับเหนือธรรมชาติ ภายหลังออกจากรายการดังกล่าวแล้ว ก็ยังคงทำงานสายมูต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเว็บไซต์ ‘อาจารย์เจน.com’ เปิดให้คำปรึกษาเรื่องดวงชะตา ความรัก โชคลาภ ฯลฯ มีการจัดทริปทำบุญและทริปลี้ลับ ชักชวนผู้สนใจไปทำบุญตามวัดต่างๆ และไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในหลายจังหวัด

นอจากนี้ ‘เจน ญาณทิพย์’เคยให้สัมภาษณ์ว่า มุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้คนที่ทุกข์ใจด้วยการใช้ประสบการณ์และความเชื่อทางจิตวิญญาณ ให้เป็นแนวทางการใช้ชีวิต ซึ่งมีทั้งผู้ศรัทธาและผู้ที่ตั้งคำถามวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยประวัติชีวิต‘เจน ญาณทิพย์’ พื้นเพเป็นคนฝั่งธนบุรี กทม.จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม แต่เธอมักจะพูดถึงประสบการณ์ที่แปลกแตกต่างจากคนอื่นๆ คือการได้ยินเสียงกระซิบสอนเรื่องบุญ บาป มาตั้งแต่ยังเด็กอายุเพียง 8 ขวบ รวมทั้งเห็นผู้คนในร่างสัตว์ที่เคยเป็นในอดีตชาติ รับรู้ถึงกรรมที่คนๆ นั้น เคยกระทำ จนเธอมองว่าเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติ ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์‘เจน ญาณทิพย์’ ยังได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและภารกิจของเธอผ่านตัวอักษรในหนังสือชื่อ ‘ภารกิจ Delete กรรม’ ชี้แนะแนวทางให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องกรรมและวิธีแก้ปัญหาชีวิตที่เกิดจากกรรมเก่า จนเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่เผชิญปัญหาชีวิต