เตือน5จังหวัด รับมือฝนหนัก พิษณุโลกอ่วม!

เตือน5จังหวัด รับมือฝนหนัก พิษณุโลกอ่วม!

วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เตือน5จังหวัด

รับมือฝนหนัก

พิษณุโลกอ่วม!

น้ำน่านเอ่อล้น

กรมอุตุฯเตือน 5 จังหวัด ฝนตกหนัก ทะเลคลื่นสูง ส่วน จ.พิษณุโลก เร่งบริหารจัดการหลังจากแม่น้ำน่าน เพิ่มระดับสูง ทำสถิติในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่ จ.เลย น้ำเลยเอ่อท่วมบ้านเรือน เจ้าหน้าที่เร่งระบาย

เมื่อวันที่ 2กันยายนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ลักษณะอากาศทั่วไป ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจ.ตาก จันทบุรี ตราด ระนองและพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1วัน


ที่ จ.พิษณุโลก วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำน่าน ว่าอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 9.25 เมตร ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี นับตั้งแต่เหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อเดือนกันยายน 2554 นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำในแม่น้ำน่าน ยังส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.วังทอง และ อ.บางกระทุ่ม เนื่องจากน้ำในคลองแคววังทอง จะไหลลงสู่แม่น้ำน่านได้ช้ามาก แม้ระดับน้ำนี้จะยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวเมืองพิษณุโลก เพราะเทศบาลนครพิษณุโลกและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและอุดท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำเข้าสู่เขตเมืองแล้ว แต่พื้นที่บางส่วนก็เริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะที่ ต.ตลุกเทียม อ.พรหมพิราม ซึ่งมีบ้านเรือนริมตลิ่ง 20 หลังคาเรือน ถูกน้ำจากแม่น้ำน่านที่ล้นตลิ่งเข้าท่วม ประชาชนต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ผู้นำชุมชนได้เข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ส่วนสาเหตุหลักของระดับน้ำที่สูงขึ้น เกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.อุตรดิตถ์ รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 40-50 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนมีมากถึง 85% ของความจุแล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาสถานการณ์ เขื่อนสิริกิติ์ มีแผนลดการระบายน้ำลงเหลือเพียงวันละ 25 ล้าน ลบ.ม.ตั้งแต่วันที่ 1-3 กันยายน 2568 ขณะที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ ยังคงระบายน้ำในปริมาณน้อยเพียง 1.3 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน พร้อมกันนั้นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่าน โดยเฉพาะชาวแพบริเวณสะพานสุพรรณกัลยา เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมรับมือ

ส่วนที่ จ.เลย สถานการณ์น้ำท่วมเนื่องจากแม่น้ำเลยเอ่อล้นในพื้นที่เทศบาลเมืองเลย น้ำได้เพิ่มระดับน้ำสูงขึ้นอยู่ที่ 10.25 เซนติเมตร ปริ่มตลิ่งรอบๆเขตเทศบาลเลย ขณะที่หมู่บ้านรอบนอกซึ่งมีพื้นที่ต่ำอย่างหมู่บ้านล่าง บ้านน้อยเริงใหญ่ ชุมชนหลังไปรษณีย์ ชุมชนหน้าอาชีวศึกษาเลย ระดับน้ำได้สูงท่วมสูงจนมิดหลังคาชั้น 1 ชาวบ้านหอพักนักเรียน นักศึกษา ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ต้องขนของออกมาด้านนอก

นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผวจ.เลย ได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่กว่า 500 นาย ร่วมกันปิดช่องรอยรั่วต่างๆไม่ให้น้ำเลยเอ่อขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ และเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ โดยขณะนี้อยู่ในช่วงเร่งระบายน้ำออก คาดว่าหากไม่มีฝนหรือน้ำเติมลงมาจาก อ.ภูหลวงและ อ.วังสะพุง จะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเลยไหลผ่านและลดลงตามลำดับ แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะพื้นที่รอบนอก จ.เลย ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องแต่ปริมาณไม่มากเหมือนเมื่อช่วง 2-3วันที่ผ่านมา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top