นายกฯลุยเยี่ยมน้ำท่วม
พิจิตร/ชัยนาท/สิงห์บุรี
ปภ.ชี้ยังอ่วมอยู่17จว.
เดือดร้อน3.6แสนราย
ปภ.เผยน้ำยังท่วม 17 จังหวัด 78 อำเภอ ชาวบ้านกระทบ 108,534 ครัวเรือน เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ ด้านกรมอุตุฯ เตือน 36 จังหวัด ฝนถล่ม กทม.โดนด้วย ส่วนกรุงเก่ายังวิกฤต 11 อำเภอ โดยอ.บางบาล เหมือนอยู่กลางทะเลสาบ ขณะพิจิตร ปภ.เร่งสูบน้ำออก จุดพนังแตก ชาวบ้านโล่งนาข้าวไม่จมน้ำ ขณะที่ นายกฯลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมน้ำท่วม’พิจิตร-ชัยนาท-สิงห์บุรี’
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่ายังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในภาคเหนือ 5 จังหวัด ภาคกลาง 8 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด และภาคตะวันออก 1 จังหวัด รวม 17 จังหวัด 78 อำเภอ 488 ตำบล 2,659 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 108,534 ครัวเรือน รวม 363,708 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 19 ราย
ทั้งนี้ ปภ.ยังคงติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัย ลงพื้นที่ประสบภัยเพิ่มเติม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
สำหรับภาคกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี ได้ส่งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบ 28,000 ลิตร/นาที ขนาด 14 นิ้ว 1 เครื่อง ช่วยเร่งสูบระบายน้ำบริเวณคลองวัดป่ากลางทุ่ง หมู่ 3 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งและพื้นที่นอกคันกันน้ำ
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนลดลง
ส่วนบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 และภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 36 จังหวัด
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จากการที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท คงการระบายน้ำในอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ส่งผลให้มวลน้ำไหลผ่านแม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆ ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มลดระดับลง เฉลี่ยประมาณ 5-10 เซนติเมตร โดย ปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 11 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 46,373 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ใน อ.เสนา บางบาล และบางไทร มีโรงเรียนถูกน้ำท่วม 33 โรงเรียน มัสยิดถูกน้ำท่วม 2 แห่ง วัด 38 แห่ง ถนนในชุมชน 58 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 390 ไร่ เป็นนาข้าวและพืชผลทางการเกษตร รวมถึงไม้ยืนต้น
ขณะที่ อ.บางบาล ถูกน้ำท่วมแล้ว 16 ตำบล 101 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 6,425 ครัวเรือน ชุมชนที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขาต่างๆ ยังได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม โดยน้ำยังท่วมสูงระดับ 2-3 เมตร สภาพบ้านเรือนบางหลัง ถูกน้ำท่วมเกือบครึ่งหลัง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการเข้าออกชุมชน บางจุดกระแสน้ำไหลเชี่ยว ซึ่งภาพมุมสูงสภาพชุมชนเหมือนอยู่กลางทะเลสาบ
ส่วนที่ จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมยังน่าเป็นห่วง ภายหลังแม่น้ำน่าน เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนใน อ.เมือง อ.ตะพานหิน และ อ.บางมูลมูลนาก ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ บางจุดมีระดับน้ำสูงกว่า 1-2 เมตร ถนนในหมู่บ้านหลายสายถูกตัดขาด รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน ได้เร่งให้การช่วยเหลือ
นอกจากนี้ในย่านเศรษฐกิจ ร้านค้า ตลาดในเขตเทศบาลตะพานหิน ทาง ปภ.จังหวัดพิจิตร ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 3 เครื่อง เร่งสูบระบายน้ำออก ส่วนการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก ชาวบ้านบางรายต้องใช้รถไถนาต่อพ่วงมารับส่งชาวบ้านออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าและข้าวของ แทนการเดินลุยน้ำ หลังจากพนังกั้นแม่น้ำน่านขาด ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน เป็นระยะทางยาวกว่า 30 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารม้าที่ 26 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือชาวบ้านกรอกกระสอบทราย ถุงบิ๊กแบ๊ก นำไปปิดกั้นน้ำตลอดทั้งวัน โดยสามารถชะลอการไหลของน้ำได้ถึง 90%
อย่างไรก็ตาม ได้มีการปรับแผนการทำงาน จากการใช้ท่อระบายน้ำซีเมนต์ มาเป็นแท่งแบริเออร์ นำลงไปด้านล่างเพื่อเป็นฐาน และใช้เสาไฟฟ้าลงไปพาด ก่อนจะนำกระสอบทรายถุงบิ๊กแบ๊ก ลงไปกั้นเพื่อชะลอการไหลของน้ำ ทำให้ปฏิบัติการได้ผล สามารถลดกระแสความเร็วของน้ำได้ ซึ่งดำเนินการแล้วเกือบ 15 เมตร จากนี้จะใช้ก้อนหินขนาดใหญ่วางเป็นแนวเสริมความแข็งแรงด้านหลังกระสอบทรายถุงบิ๊กแบ็ก
นายระเบียบ ทองบัว ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ทำนาเกือบ 200 ไร่ กำลังจะเก็บเกี่ยวผลผลิตอีกไม่กี่วัน หากไม่สามารถอุดกั้นน้ำได้ นาข้าวที่กำลังจะได้เก็บเกี่ยวก็จะได้รับความเสียหาย แต่พอเห็นการทำงานและความร่วมมือร่วมใจของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ที่สามารถอุดกั้นน้ำได้สำเร็จก็รู้สึกดีใจ และต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยได้ลงพื้นที่ จ.พิจิตร ชัยนาท และสิงห์บุรี ติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมกับมอบสิ่งของให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ที่โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร
โดยนายกฯ กล่าวว่า เดินทางมาให้กำลังใจเพราะรับทราบว่าน้ำท่วมมาระยะหนึ่งแล้ว ขอให้อดทนอีกนิดจะปลายฝนแล้ว สถานการณ์น่าจะดีขึ้น รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งดูสภาพน้ำแล้ว 50,000 บาท ยังไม่คุ้มเลย แต่รัฐบาลก็พยายามหาวิธีช่วย โดยให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลงบประมาณ หาวิธีช่วยประชาชนให้มากกว่านี้ ต่อไปก็มีเงินช่วยเหลือให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่บัตรคนจน ที่จะใส่เงินเดือนละ 300 บาท แถมไป 1,700 บาท เป็น 2,000 บาท ทั้งหมดอนุมัติงบประมาณแล้ว เพราะฉะนั้นประชาชนเดือดร้อนในเรื่องน้ำท่วม แต่การจับจ่ายใช้สอยจะมีเม็ดเงินให้นำมาซื้อข้าวซื้อของในสิ้นปีนี้
นายกฯ กล่าวต่อว่าเรามีแผนการฟื้นฟูปรับระบบระบายน้ำ ทำถนน สร้างคันกั้นน้ำ ทำโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแรงขึ้น ไม่ต้องเจอเหตุการณ์ซ้ำๆ ซากๆ แบบนี้อีก น้ำต้องหาวิธีระบาย อย่างที่บึงสีไฟ ทำอย่างไร ให้ผันน้ำลงสู่เจ้าพระยา ลงไปลงอ่าวไทยเร็วที่สุด โดยไม่ให้ท่วมจังหวัดที่ไหลผ่าน ขอให้พ่อแม่พี่น้องให้อภัยพวกตนด้วย แต่เราไม่ได้อยู่เฉยๆ หาวิธี หาหนทางต่างๆ ที่จะมาเยียวยาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด ต้องขอให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ช่วยดูแลพี่น้องประชาชน
ก่อนเดินทางต่อไปยังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อประชุมสรุปสถานการณ์น้ำและแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา มอบนโยบายและแนวทางการทำงานตามนโยบายรัฐบาล เร่งช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ทั่วถึง
จากนั้นนายกฯ จึงเดินทางไปยัง อบต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พบปะและมอบสิ่งของให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี