'ทช.'จับมือ SCG นำนวัตกรรม 3D Printing ปฏิวัติฟื้นฟูปะการัง คืนชีวิตท้องทะเลไทยยั่งยืน

'ทช.'จับมือ SCG นำนวัตกรรม 3D Printing ปฏิวัติฟื้นฟูปะการัง คืนชีวิตท้องทะเลไทยยั่งยืน

วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.05 น.

'ทช.'จับมือ SCG นำนวัตกรรม 3D Printing ปฏิวัติฟื้นฟูปะการัง คืนชีวิตท้องทะเลไทยยั่งยืน 6 มหาลัยวิทยาลัยดัง ร่วมเสนอผลงาน

เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ท้องทะเลไทยในวันนี้กำลังเผชิญวิกฤตความเสื่อมโทรมของแนวปะการังอย่างต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางทะเล หรือการท่องเที่ยวที่เกินขีดความสามารถของระบบนิเวศ การฟื้นฟูปะการังจึงกลายเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จับมือกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จัดกิจกรรม “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025 by 3D Printing Tech” การแข่งขันออกแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วยเทคโนโลยี 3D Printing เพื่อเปิดเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบแนวคิด นวัตกรรม เทคนิคหรือรูปแบบใหม่ของฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และสามารถตอบสนองต่อปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการังได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ดร.ปิ่นสักก์ กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ มีทีมที่เข้าร่วมกิจกรรมและนำเสนอผลงานทั้งหมด 6 ทีม ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thai Ocean Academy Pattaya และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลการแข่งขัน ผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรางวัล 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร รางวัลการชมเชย จำนวน 4 ทีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thai Ocean Academy Pattaya และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับรางวัลทีมละ 10,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร และรางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับรางวัล 20,000 บาท ซึ่งแนวคิดที่ชนะเลิศจะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นแนวทางการดำเนินงานในระดับชาติ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรปะการังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการังสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของปัญหาในปัจจุบันและอนาคต

“กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแข่งขัน แต่ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ ตลอดจนการสร้างความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการฟื้นฟูปะการังของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ในการสร้างนวัตกรรมฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วยเทคนิค 3D printing และองค์ความรู้ จากภาคการศึกษาที่มีผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนแนวทาง เทคนิคในการฟื้นฟูทรัพยากรปะการังของประเทศไทย ซึ่งกรมฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้ให้ความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันฟื้นฟู คืนความสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยให้คงอยู่ และมีใช้อย่างยั่งยืน และต้องขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รับรางวัล โดยกรมฯ และ SCG จะนำผลงานดังกล่าวไปต่อยอดการพัฒนาระบบโครงสร้างปะการังเทียมด้วย 3D Printing ให้เกิดประสิทธิภาพเหมาะกับสภาพแวดล้อมปะการังใต้ท้องทะเลต่อไป”ดร.ปิ่นสักก์ กล่าว

ด้านนายเฉลิมวุฒิ สงวนญาติ Concrete and Construction Technology Director หน่วยงาน Innovation and Technology ธุรกิจ SCG Cement and Green Solutions กล่าวว่า SCG มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี 3D Printing และปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงเกาะของตัวอ่อนและมีความทนทานต่อสภาพใต้ท้องทะเลใกล้เคียงกับธรรมชาติ พร้อมสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้เกิดการบูรณาการทรัพยากร ทั้งในด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี สามารถขยายผลในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูปะการังได้อย่างแท้จริง และยังสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการดูแลทรัพยากรของชาติอีกด้วย

นายเฉลิมวุฒิ กล่าวอีกว่า  แนวปะการังของประเทศไทย มีความสำคัญทั้งในด้านระบบนิเวศ คือ เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเลหลากหลายชนิด และในด้านเศรษฐกิจและสังคม คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างอาชีพให้กับประชาชนทั้งทางตรง และทางอ้อม กิจกรรม “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025” จึงไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ แต่เป็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูท้องทะเลไทยให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และคนรุ่นใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์สู่อนาคตที่ยั่งยืน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top