ครม.ไฟเขียว!! คุ้มครอง'วาฬ 3 ชนิด'สัตว์ทะเลหายาก หวังฟื้นสมดุลนิเวศทะเลไทย

ครม.ไฟเขียว!! คุ้มครอง'วาฬ 3 ชนิด'สัตว์ทะเลหายาก หวังฟื้นสมดุลนิเวศทะเลไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.45 น.

'อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ' เผยครม.ไฟเขียวคุ้มครอง'วาฬ 3 ชนิด'สัตว์ทะเลหายาก หวังฟื้นสมดุลนิเวศทะเลไทย

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติครม.เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา โดยอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ โดยสาระสำคัญคือการเพิ่มรายการสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำ จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 3 ชนิด ในบัญชี 2 บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำ ได้แก่ วาฬหลังค่อม (Megaptera novaeangliae) เป็นลำดับที่ 22, วาฬเบลนวิลล์ (Mesoplodon densirostris) เป็นลำดับที่ 23, และโลมาริสโซ (Grampus griseus) เป็นลำดับที่ 24 เพื่อให้สัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้ ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ห้ามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และต้องกระทำเพื่อกิจการสวนสัตว์เท่านั้น การมีไว้ในครอบครองก็จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตเช่นกัน  


อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยอีกว่า ร่างกฎกระทรวงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการปกป้องและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลเพราะวาฬและโลมาทั้ง 3 ชนิดนี้มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล แต่จำนวนประชากรมีแนวโน้มลดลงอย่างน่าเป็นห่วง โดยอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) กำหนดให้ วาฬหลังค่อม เป็นสัตว์ป่าในบัญชีหมายเลข 1 ส่วน วาฬเบลนวิลล์ และ โลมาริสโซ เป็นสัตว์ป่าในบัญชีที่ 2 เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมและรักษาสมดุลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้น จึงเห็นควรกำหนดให้สัตว์ทั้ง 3 ชนิด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เนื่องจากอาจมีโอกาสถูกจับหรือติดเครื่องมือประมงระหว่างทำการประมงโดยบังเอิญ หรืออาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตตามธรรมชาติ เกิดการบาดเจ็บ นำไปสู่การใกล้สูญพันธ์ุ หรืออาจถูกล่าเพื่อนำไปจัดแสดงในสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำได้

“กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินภารกิจในการสำรวจการแพร่กระจายของวาฬและโลมา รวมถึงการศึกษาวิจัยเพื่อการอนุรักษ์ พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูล องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทะเลหายากที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล ตรวจตราเฝ้าระวัง และรับแจ้งการพบเห็นสถานการณ์สัตว์ทะเลหายาก ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือและรักษาพยาบาล แม้ว่าวาฬและโลมาทั้ง 3 ชนิดนี้ จะไม่ได้เป็นสัตว์ประจำถิ่นของประเทศ ไทย แต่ก็มีรายงานการพบเห็นในน่านน้ำไทย โดยวาฬหลังค่อมและวาฬเบลนวิลล์ มีการเก็บข้อมูลการพบเห็น การเกยตื้น และการแพร่กระจาย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เคยสำรวจพบที่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต ขณะที่โลมาริสโซ มีรายงานการเกยตื้นระหว่างปี 2546–2565 ถึง 11 ครั้ง ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ในหลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต ระยอง นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และตรัง แสดงให้เห็นว่า สัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้ เป็นสัตว์อพยพระยะไกลที่พบได้ทั่วภูมิภาค การเพิ่มเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจึงมีส่วนช่วยฟื้นฟูความสมบูรณ์ของทะเลไทย อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าในตลาดโลก และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ตลอดจนกระตุ้นให้ชุมชนและประชาชนเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ดูแลแหล่งอาหารและถิ่นอาศัยไม่ให้เสื่อมโทรม และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน“ 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top