จนท.บุกป่าเดินเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน 3 วัน 2 คืน ดักตะครุบแก๊งลักลอบขุดดินร่อนแร่ทองคำ หลังกล้องวงจรปิดส่งสัญญาณความเคลื่อนไหว สุดท้ายทิ้งของวิ่งป่าราบอาศัยความมืดหลบหนีไปได้
5 กันยายน 2568 กรณีนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีหนังสือ ด่วนที่สุด ไปถึงผู้ประกอบการร้านค้า ร้านของชำ ในพื้นที่บ้านโบอ่อง หมู่ 2 บ้านโพธิ์สามต้น หมู่ 3 บ้านปิล๊อกคี่ และกลุ่มบ้านเกริงแกละ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เพื่อขอความร่วมมือไม่รับซื้อแร่ทองคำที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด หากฝ่าฝืนแล้วถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ ผู้ซื้ออาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 และประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกำหนดวิธีการร่อนแร่ หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งและรับแจ้งการร่อนแร่ พ.ศ.2560 ฐาน 'การซื้อแร่ การขายแร่ การครอบครองแร่ หรือการขนแร่ ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่สามเท่าถึงห้าเท่าของมูลค่าแร่ หรือทั้งจำทั้งปรับ'
รวมถึงดำเนินการใช้มาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขุดดินเพื่อร่อนหาแร่ทองคำภายในแม่น้ำแควน้อย พร้อมทั้งดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามพระราชบัญญัติระเบียบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 ประกอบกับประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดวิธีการร่อนแร่ หลักเกณฑ์ และวิธีการแจ้งและรับแจ้งการร่อนแร่ พ.ศ.2560 ห้ามบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 บาท 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ 4 กันยายน นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากนายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ว่าวันที่ 31 ส.ค.68 เวลากลางคืน เจ้าหน้าที่ได้รับสัญญาณแจ้งเตือนผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้บริเวณป่าปิล๊อกคี่ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แปลงตรวจยึดเนื้อที่ 13-3-68 ไร่ จากการตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลที่ลักลอบเข้าไปขุดดินร่อนหาแร่ทองคำเดินเข้าออกพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 10-15 คน
ดังนั้นในวันที่ 1 กันยายน เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่จึงแต่งกายปลอมตัวเป็นชาวบ้านเพื่อไม่ชาวบ้านในพื้นที่สงสัย จากนั้นจึงนั่งเรือไปขึ้นฝั่ง แล้วเดินลัดเลาะไปตามป่าสันเขาอ้อมบ้านปิล๊อกคี่ที่เป็นป่ารกทึบ ผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมไปทางทิศตะวันตก ใกล้กับแปลง 13 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงพักคอยเพื่อสังเกตพฤติกรรม กระทั่งเวลา 23.30 น. กล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มบุคคลเป็นชาย 5 คน แบกเป้สีฟ้าเอาไว้ด้านหลังค่อนข้างหนัก
ต่อมาเวลาประมาณ 03.30 น. ของเช้าวันที่ 2 กันยายน เจ้าหน้าที่สังเกตพบเห็นแสงไฟส่องสว่างของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเดินลงมาจากเขามุ่งหน้ามายังจุดที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่ม เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อมเอาไว้ เมื่อได้จังหวะจึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่เมื่อชายทั้ง 5 คนเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ทิ้งสิ่งของแล้ววิ่งหลบหนีลงจากเขาอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้พยายามไล่ติดตามแต่ไม่ทัน เนื่องจากเวลาดังกล่าวเป็นกลางคืนจึงยากต่อการติดตาม
จากการตรวจสอบสิ่งของที่ชายทั้ง 5 รายโยนทิ้งเอาไว้ มีจำนวน 8 รายการ ประกอบด้วย 1.กระสอบปุ๋ยสีฟ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 18.9 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง 2.กระสอบปุ๋ยสีฟ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 13 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง 3.กระสอบปุ๋ยสีฟ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 17 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง 4. กระสอบปุ๋ยสีฟ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 14 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง 5. กระสอบปุ๋ยสีฟ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 17 กิโลกรัม จำนวน จำนวน 1 ถุง 6.เรียงร่อนแร่ จำนวน 1 อัน 7. เปล จำนวน 1 ผืน และ8.เป้กระสอบสีฟ้าสะพายหลัง จำนวน 5 ใบ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเก็บเอาไว้เป็นของกลาง
จากนั้นวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จึงเร่งจดทำบันทึกเรื่องราว พร้อมนำของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก เอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดทั้ง 5 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้
ฐาน “ร่วมกันยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้างแผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 วรรคสอง (3)
ฐาน “ร่วมกันเก็บหา กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่ง ดิน หิน กรวด ทราย แร่ หรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามความในมาตรา 19 (2) และมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562
ฐาน “ร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา 19 (6) และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี