เห็นจะจะตำตา กระบะมารับแรงงานเถื่อนริมถนน 3 คัน หนีรอดเพราะฝนตกหนัก จนท.ระดมกำลังรวบได้อีกเกือบ 100 ราย

8 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 12.00 น. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าริมถนนสาย กาญจนบุรี-บ่อพลอย ท้องที่บ้านหนองสองตอน หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีแรงงานจำนวนมากวิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดรออยู่ริมถนนและขับออกไปแล้ว จำนวน 3 คัน

หลังจากได้รับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรี สั่งการทางวิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ช่วยกันสกัดจับไปตามเส้นทางต่างๆที่คาดว่ารถยนต์กระบะจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี แต่เนื่องจากช่วงดังกล่าวฝนตกลงมาอย่างหนัก สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถสกัดจับเอาไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จดบันทึกข้อมูลยี่ห้อ สี รวมถึงหมายเลขทะเบียนของรถยนต์เอาไว้แล้ว ซึ่งจะได้ตรวจสอบข้อมูลผู้ครอบครองในภายหลัง

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ปจร.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาญจนบุรี ได้กระจายกำลังกันค้นภายในป่า พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายหญิงหลบซ่อนตัวอยู่เป็นจำนวนมาก จึงนำมารวมตัวกันในที่โล่งแจ้ง นับรวมกันได้ จำนวน 75 ราย เป็นชาย 52 ราย หญิง 23 ราย หลังจากจับกุมเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เบื้องต้นแรงงานจำนวนดังกล่าวไม่มีเอกสารใดๆมาแสดงอีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงสอบปากคำผ่านล่ามแปล

จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนด้านด่านเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่ติดกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา เมื่อข้ามชายแดนเข้ามาได้มีผู้นำพาไปลงเรือล่องไปตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ จากนั้นมาขึ้นฝั่งไม่ทราบสถานที่ โดยใช้เวลานานหลายวันกว่าจะมาถึงฝั่ง

ต่อมามีรถมารับนำมาส่งที่จุดพักคอยบริเวณชายป่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงแรงงานจำนวนหนึ่งได้ขึ้นรถกระบะไปแล้วจำนวน 3 คัน ระหว่างที่พวกตนรอรถมารับ ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน โดยกลุ่มแรงงานทั้งหมดมีจุดหมายไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในเมื่อถึงสถานที่ทำงานจะต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละประมาณ 20,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละคน

หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไปในภายหลัง ต่อไป.

012