งบฯปี 2569 กทม. เข้าสภาฯ วาระ 2-3 ศุกร์นี้ คกก.วิสามัญฯตัด-ปรับ ลดไป 6.2 พันล้าน ตัดโครงการไม่เหมาะสม งบเขตผ่านฉลุย ยึดประโยชน์ประชาชนแท้จริง

คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา เป็นประธานฯ ได้ประชุมพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ งบประมาณปี 2569 ทุกหน่วยงานกรุงเทพมหานครแล้วตามกรอบระยะเวลาภายใน 45 วัน ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง ในวันที่ 12 กันยายนนี้ โดยมี ญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพื่อพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สาม (คณะกรรมการวิสามัญฯรายงานผลการพิจารณา)

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณประจำปี 2569 ว่า หลังจากสภากรุงเทพมหานครรับหลักการในวาระที่ 1 แล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มีการตัด ปรับลด งบประมาณโครงการต่างๆ ไป 6,200 กว่าล้านบาท ซึ่งฝ่ายบริหารได้แปรคืนกลับมาได้ทั้งหมด โดยพิจารณาโครงการที่เหมาะสม มีทั้งส่วนที่ถูกตัดไปนำกลับไปพิจารณาใหม่ และส่วนที่ไม่ได้ยื่นเสนอไปตั้งแต่แรก เช่น โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลทุ่งครุที่เสนอมาแต่เอกสารไม่สมบูรณ์จึงไม่ได้อยู่ในร่างข้อบัญญัติฯงบปี 69 เมื่อมีการแปรญัตติจึงได้นำโครงการนี้เข้ามาแทนบางรายการที่ถูกตัดแล้วไม่ได้แปรกลับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่าไม่ได้มีผลกระทบกับการทำงานของกรุงเทพมหานคร โดยรวมการจัดทำงบประมาณในปีนี้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา คุยกันเข้าใจ มีระบบที่ดีในการเตรียมการจัดทำงบประมาณ และเป็นปีแรกที่ส่วนงบแปรให้หน่วยงานเข้าชี้แจงเอง ต่อคกก.วิสามัญฯ เพื่อให้เข้าใจในรายละเอียดทำให้การพิจารณาผ่านไปด้วยดี

“การจัดทำงบประมาณนั้นไม่สามารถเป็นไปตามประสงค์ของหน่วยงานได้ เพราะวงเงินที่มีอยู่กับความต้องการต่างกันเยอะ จึงต้องมีการตัด ปรับลดงบประมาณ ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้พิจารณาดูแล้วเรื่องไหนที่ยังไม่สวมควรก็จะตัด หรือปรัดลดงบประมาณลง เช่นโครงการต่อเนื่องที่ต้องดำเนินการมากกว่า 1 ปีงบประมาณ หรือโครงการปรับปรุงถนน ตรอก ซอย ซึ่งได้เข้าไปดูแล้วเห็นว่าสภาพยังสามารถใช้งานได้อยู่ หากฝ่ายบริหารเห็นว่าเป็นโครงการที่มีความจำเป็นก็สามารถแปรคืนได้ ซึ่งมียอดที่ถูกตัดปรับลดไป 6,200กว่าล้าน ส่วนใหญ่จะเป็นการปรับลดมากกว่า และเราแปรคืนได้ทั้งหมดในส่วนโครงการที่เหมาะสม ส่วนงบของเขตจะผ่านทั้งหมด“ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนยอดที่ถูกตัด 6,200 กว่าล้าน มากกว่าครึ่งเป็นการปรับลดโครงการต่อเนื่อง ส่วนที่ตัดไปและไม่ได้เสนอแปรกลับมา เช่น โครงการจ้างที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง ของสำนักการโยธา ซึ่งคกก.วิสามัญฯ เห็นว่าสามารถทำเองได้ไม่จำเป็นต้องจ้างที่ปรึกษา และ รายการเครื่องจักรและอุปกรณ์ระบบบำบัดกลิ่นพร้อมติดตั้งสำหรับโรงหมักปุ๋ยอินทรีย์ 1 ชุด 38ล้าน ของสำนักสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราเห็นตรงกันว่าไม่มีความจำเป็น เพราะในอนาคตโรงกำจัดขยะของกทม. จะต้องทำเป็นระบบปิด โดยเอกชนที่ประมูลงานได้จะต้องเป็นผู้ลงทุนเอง ต่อไปเรื่องมลภาวะกลิ่น เสียง ผู้ที่มารับงานกทม. ก็จะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย เมื่อสภาตัดแล้วเราก็เห็นด้วย

036