เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบกับชาวบ้าน บ้านเขาโต๊ะ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งกำลุงขุดมันสำประหลังที่ปลูก เพื่อนำไปขาย โดยไร่มันอยู่ติดกับปราสาทตาควายเพียง 3 กิโลเมตร โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาบอกว่าตอนนี้ ยังอยู่ในการหวาดระแวง เนื่องจากสถานการณ์ถือว่ายังไว้ใจไม่ได้

หลังจากที่  นายกรัฐมนตรีชุดใหม่ได้เข้ามาบริหาร และชาวบ้านได้ยินมาว่าจะมีการเปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา โดยวันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีที่ประเทศไทย จะมีการเปิดด่าน ให้กับกัมพูชาได้เข้ามายังประเทศไทยในพื้นที่ชายแดน จึงอยากฝากไปถึงผู้นำของประเทศ ถึงสถานการณ์ดังกล่าว ว่าสมควรแล้วหรือไม่อย่างไร เกี่ยวกับการเปิดด่าน

ด้านนายสมพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี เล่าว่า ตอนนี้ถ้ารัฐบาลจะเปิดพรมแดนตนไม่อยากให้เปิด อยากให้ปิดไปนานๆ สัก 4-5 ปีไปเลย ตอนนี้ตนเองจะเกลียดและหมั่นไส้กัมพูชามาก เพราะมันพูดไม่เป็นความจริงสักอย่าง  สภาพความเป็นอยู่ตอนนี้ก็ยังหวาดระแวง ถ้ามีการเปิดพรมแดนตนว่าปิดถาวรไปเลยไม่ต้องเปิด ตอนนี้ทางประสาทตาควายยังอยู่ในมือของกัมพูชา ประเทศไทยยังไม่สามารถยึดได้ทั้งหมด สักวันนึงเราจะต้องยึดเอาคืน อยากให้ฮุนเซนต์พูดความจริง ไม่อยากให้โกหก ฮุนเซนอยากได้อะไรก็ชี้เอาชิเอา  ล่าสุด อยากได้ประสาทเรา เราไม่ยอม  พูดเป็นภาษาเขมรว่า “ ปราสาททั้งหมดเป็นของไทย ไม่ใช่ของเขมร ไอ้พวกเขมรมันอ่านภาษาเค้าไม่ออก อย่าเข้าใจว่าประเทศตัวเองเป็นคนสร้างประสาท”

นางบุญช่วย  อายุ 50 ปี เราว่าตนเองไม่อยากให้เปิดด่านให้เขมรเข้ามา ตนเองเกลียดเขมรไม่ชอบ ถ้าเป็นไปได้ให้ปิดถาวรไปเลย  อยากให้ทำกำแพงสูงสูงกั้นไปเลย จนอยากฝากไปถึงรัฐบาลให้จบปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาให้เร็วที่สุด