วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้แจง การเข้าบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ กรณี ชป.จรยุทธ์ ฉก.สงขลา 40 ที่ได้ตรวจพบสถานที่หลบซ่อนพักพิงเพื่อเตรียมการก่อเหตุของกลุ่ม ผกร.ในช่วงเช้าของวานนี้ (11 ก.ย.68)

พันเอก ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุ เมื่อ 11 กันยา 68 เวลา 05.30 น.ขณะเจ้าหน้าที่ ชป.จรยุทธ์ ฉก.สงขลา 40 ได้ทำการลาดตระเวนในพื้นที่สวนยางพารา บ.ห้วยเต่า หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้ตรวจพบสถานที่หลบซ่อนพักพิงเพื่อเตรียมการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อการร้าย จึงเข้าทำการตรวจสอบ ระหว่างนั้นกลุ่ม กลุ่มผู้ก่อการร้ายจำนวน 4 - 5 คนได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงใช้ลำน้ำสกัดกั้นและยิงตอบโต้จนเกิดการปะทะ 

จากนั้นกลุ่มกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนเนินเขา เจ้าหน้าที่ ชป.จรยุทธ์ ฉก.หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 จึงได้แจ้งให้ตำรวจและนปพ.กกล.ทพ.จชต.เข้าควบคุมพื้นที่ และบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ร่วมกันเจรจาให้กลุ่ม กลุ่มผู้ก่อการร้ายวางอาวุธ ออกมามอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต่อสู้ตามหลักของกฎหมาย แต่ไม่เป็นผล ยังยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ ก่อนหลบหนีไปได้ ทิ้งร่องรอยการพักพิง เสบียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ 

พลโท ไพศาล หนูสังข แม่ทัพภาค 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กำชับเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมาย ตามหลักฐานวัตถุพยานด้วยความโปร่งใส เน้นการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด

ต่อมา ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่้ผ่านมา เจ้าหน้าหน่วยปฏิบัติการร่วมปัตตานี ได้วางกำลังตามแผนปฏิบัติการตามจุดที่พบการเคลื่อนไหวของคนร้าย ซึ่งจุดที่ ชุดปฏิบัติการสลาตัน และ กำลังทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 46 รับผิดชอบ ได้เปิดฉาก ปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบอีกครั้ง นานประมาณ 10 นาที หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ก็พบว่า มีกลุ่มก่อความไม่สงบ ถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บ 

ซึ่งขณะนี้การปฏิบัติการ ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว และคาดว่า จะมีกลุ่มก่อความไม่สงบ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่การเข้าตรวจสอบก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ