ชาวนาแห่ถอนไร่ละพัน ยาวเหยียดเงินหมดตู้ วอน'นายกฯหนู'พยุงราคาข้าว ไม่ให้ต่ำกว่าตัน 15,000 บาท

ชาวนาแห่ถอนไร่ละพัน ยาวเหยียดเงินหมดตู้ วอน'นายกฯหนู'พยุงราคาข้าว ไม่ให้ต่ำกว่าตัน 15,000 บาท

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.36 น.

ชาวนาบุรีรัมย์แห่นำบัตร ATM ไปเข้าคิวรอถอนเงินไร่ละพันแถวยาวเหยียด  บางตู้เงินหมด จนท.ต้องเติมเพิ่ม  หลายคนรอไม่ไหวยอมไปกดถอนต่างธนาคารแม้จะเสียค่าธรรมเนียม  เพราะรีบนำเงินไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว   อยากให้มีโครงการนี้ต่อเนื่อง  วอนนายก อนุทิน  ช่วยพยุงราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่าตันละ 15,000 

วันที่ 18 กันยายน 2568 ชาวนาจากหลายตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียง ต่างพากันนำบัตร ATM  ไปเข้าคิวรอกดถอนเงินโครงการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท  ที่ตู้ ATM  หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาเสด็จนิวัติ  ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์  อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์ เป็นแถวยาวเหยียดตั้งแต่ช่วงเช้า จนเงินที่เจ้าหน้าที่เติมใส่ตู้ไว้ไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องนำเงินมาเติมเพิ่ม  ซึ่งบางคนก็ยอมที่จะนั่งรอจนกว่าเจ้าหน้าที่จะเติมเงินใส่ตู้เสร็จ  แต่บางคนไม่รอเลือกที่จะนำบัตร ATM ไปกดถอนยังตู้ของธนาคารอื่น แม้จะเสียค่าธรรมเนียมในการกดถอนต่างธนาคารก็ตาม เพราะตั้งใจมาถอนเงินไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว เพราะถ้าไม่ได้ซื้อวันนี้ก็ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเติมน้ำมัน หรือจ้างรถ มาถอนเงินและซื้อปุ๋ยวันหลังอีก


    

ซึ่งชาวนาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์กับชาวนาอย่างแท้จริง   เพราะสามารถนำไปซื้อปุ๋ย  จ่ายค่าไถ  ค่าเกี่ยว เพื่อลดต้นทุนการทำนาได้อย่างดี   จึงอยากให้มีโครงการดังกล่าวต่อเนื่อง   ทั้งนี้ยังได้วอนให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่  ได้ออกมาตรการพยุงราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่า 15,000 บาท 

นางส่อง ชาวนาบ้านใหม่พัฒนา ตำบลสะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า วันนี้เพิ่งได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทโอนเข้าบัญชี 3,000 บาท  พอนำบัตร ATM  จะไปกดถอนเงินที่ตู้กลับพบว่าเงินในตู้หมดต้องรอเจ้าหน้าที่เติมเพิ่ม ก็ยอมที่จะนั่งรอเพราะตั้งใจจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว ดีใจและขอบคุณที่รัฐมีโครงการช่วยเหลือชาวนา  ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระต้นทุนในการทำนาได้เป็นอย่างดี ก็อยากให้มีโครงการนี้ต่อเนื่อง  และหากเป็นไปได้ก็อยากให้นายกรัฐมนตรี คนใหม่  ช่วยออกมาตรการพยุงราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท ให้เพราะราคาข้าวไม่สอดคล้องกับต้นทุนทำนา

ด้านนายสุพรรณ ชาวนาบ้านตะโกรี  ต.สำโรง  อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ บอกว่า  วันนี้พาญาติมาโรงพยาบาลในตัวเมือง  จึงนำบัตร ATM ไปลองกดดูที่ตู้ก็พบว่าเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท โอนเข้าบัญชีแล้ว ก็ตั้งใจจะกดไปซื้อปุ๋ยแต่ถอนไม่ได้เพราะเงินในตู้หมด  เนื่องจากมีชาวนามากดถอนเงินเยอะ ก็จะลองไปถอนตู้อื่นแทนเพื่อจะนำเงินไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว ก็ขอบคุณที่รัฐบาลช่วยเหลือชาวนา  เพราะหากไม่มีเงินไร่ละ 1,000 บาท ชาวนาคงเดือดร้อนต้องไปกู้ยืมเงินนายทุนซึ่งมีดอกเบื้อสูงอีก ก็อยากให้มีโครงการนี้ต่อเนื่อง   

ทั้งนี้ ยังได้ฝากท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่  ช่วยหามาตรการพยุงราคาข้าวเปลือกไม่ให้ต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท  เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนทำนาที่แพงขึ้นด้วย 
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top