คนบุรีรัมย์เตรียมเข้ากรุงเทพยื่นหนังสือนายกฯอนุทินให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล เผยชาวบ้านไม่ยอมรับการจัดเวทีรับฟัง-หวั่นผลกระทบอื้อ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ณ ศาลาหมู่บ้านหนองหัวลาว ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดอำเภอชำนิ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 300 คน ได้ร่วมกันใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการชุมนุมแสดงพลัง การแสดงความคิดเห็น เพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องทรัพยากรพร้อมทั้งคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและข้อกังวล กรณีการสร้างโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันอ้อยต่อวัน และโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกะวัตต์ ที่จัดขึ้นในวันนี้และสถานที่เดียวกัน จึงทำให้เกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อยแต่ไม่เกิดเหตุรุนแรง ทำให้มีการย้ายสถานที่ในการจัดเวที ทางตัวแทนกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ร่วมกันประกาศชัยชนะในการปกป้องบ้านเกิดและหลังจากนี้จะเตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี

นายสมพงษ์ สงกูล กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในขณะวิถีชีวิตของชาวบ้านมีอาชีพหลักทำนา พื้นที่ตั้งจึงไม่มีความเหมาะสม หากมีการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลในพื้นที่หนองปล่องจริงจะส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพร่างกายของประชาชน และด้านสิ่งแวดล้อมด้วย  อาทิเช่น ฝุ่น PM2.5 , ปัญหาการจราจรของรถบรรทุกอ้อยวิ่งผ่านหมู่บ้าน , การปนเปื้อนของมลพิษในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้อุปโภค บริโภค และการเกษตร ตลอดจนการแย่งชิงทรัพยากรน้ำเพื่อใช้ในโรงงาน  

“พื้นที่ที่จะถูกจัดตั้งโรงงานดังกล่าวอยู่ติดห้วยลำปะเทียของชุมชนที่ได้พึ่งพาอาศัยหาอยู่หากิน การจะมาจัดตั้งโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตรครอบคลุม 6 ตำบล มีทั้งหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหน่วยงานราชการอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน ทางกลุ่มเตรียมเข้ากรุงเทพเพื่อไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ยกเลิกโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล”นายสมพงษ์ กล่าว 

ด้านนายไพฑูรย์ ศรีเนาว์รัตน์ กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและข้อกังวลในวันนี้ตนมองว่ามีปัญหาเพราะ 1.ตำบลหนองปล่องประชาคมไปแล้ว 8 หมู่บ้านยืนยันไม่เห็นด้วยที่จะมีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 2.จากการเก็บแบบสอบถามของพี่น้องประชาชนในพื้นที่พบว่าไม่เคยรับรู้ข้อมูลมาก่อนว่าบริเวณพื้นที่ใกล้ชุมชนจะมีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล 3.ในพื้นที่ไม่มีวัตถุดิบอ้อย