บิ๊กช้างเดินหน้าชน! เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ-ปปช.ให้สอบ 42 สส.ปมร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า

บิ๊กช้างเดินหน้าชน! เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ-ปปช.ให้สอบ 42 สส.ปมร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า

วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568, 12.05 น.

อดีตหัวหน้า ศปป.4 กอ.รมน. ออกโรงคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีบุกรุกป่าแบบสุดซอย ชี้ขัดรัฐธรรมนูญและหลักจริยธรรม พร้อมเตรียมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ 42 ส.ส. ที่เสนอร่างกฎหมาย หวั่นเปิดช่องให้ทำลายป่าไม้ของชาติ

วันนี้ (23 กันยายน 2568) พ.อ.(พิเศษ) พงษ์เพชร เกษสุภะ หรือ บิ๊กช้าง อดีตหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) อดีตผู้การมือปราบทรัพยากรป่าไม้ชื่อดัง กล่าวว่า หลังจากที่ตนออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่า และนิรโทษกรรมที่ดินกลับคืนมาให้กับผู้ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่าแบบสุดซอย ด้วยการมีผลย้อนหลังไปหลายสิบปี ทั้ง 2 ร่าง ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ครั้งแรกของประเทศไทยที่ออกมาในลักษณะนี้


ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยและทำกินใน เขตป่าสงวนแห่งชาติ ประมาณเกือบ 2 แสนคน เนื้อที่ประมาณ 2 ล้านกว่าไร่ และ ป่าอนุรักษ์ ประมาณ 3 แสนกว่าคน รวมเนื้อที่ประมาณ 4 ล้านกว่าไร่ โดยอาศัยนโยบายของรัฐบาลตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 และมติ ครม. 26 พ.ย. 2561 บุคคลเหล่านี้อยู่ร่วมกับป่าอย่างผาสุก เพราะปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ด้านการป้องกัน ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ว่า สามารถอยู่อาศัยและทำกินในเขตป่าเดิม และตกทอดถึงลูกหลานได้ แต่ห้ามมิให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่ หรือขยายที่ดินทำกินเพิ่มเติม หรือห้ามมิให้มีการ ซื้อ-ขาย ที่ดินตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ให้กับบุคคลอื่นหรือนายทุน หรือห้ามสร้างบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ต โรงแรม ฯลฯ หากปฏิบัติตามเงื่อนไขตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ได้ เจ้าหน้าที่ก็จะผ่อนปรนให้อยู่อาศัยทำกินในเขตป่าสงวนและในเขตป่าอนุรักษ์ได้ โดยไม่เข้าไปจับกุมดำเนินคดีแต่อย่างใด

สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่าในเขต ป่าสงวนแห่งชาติ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนประมาณ 6 พันกว่าคน และตรวจยึดพื้นที่ได้ประมาณ 6 แสนกว่าไร่ ส่วนผู้ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกใน เขตป่าอนุรักษ์ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีประมาณ 3 พันกว่าคน เนื้อที่ที่ตรวจยึดได้ประมาณ 2 แสนกว่าไร่ รวมแล้วผู้ถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าจากอดีตจนถึงปัจจุบันมีประมาณ 1 หมื่นกว่าคน และพื้นที่ที่ตรวจยึดรวมประมาณ 8 แสนกว่าไร่ ที่จะได้รับประโยชน์จากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ดังกล่าว นอกจากพ้นมลทินแล้ว ยังได้กลับไปครอบครองพื้นที่ป่าที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดีคืนตามเดิมประมาณ 8 แสนกว่าไร่ ซึ่งบางพื้นที่ได้คืนสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ไปแล้ว บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมาย ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม และทำลายพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม และแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเสียหาย

นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม หรืออากาศเป็นพิษ ทำให้ประชาชนที่ไม่ได้กระทำผิดกฎหมายบุกรุกป่า ซึ่งเป็นผู้ที่เคารพกฎหมาย กลับได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากภัยพิบัติที่มีต้นเหตุมาจากการบุกรุกทำลายป่า บุคคลเหล่านี้จึงไม่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม นอกจากได้รับการนิรโทษกรรมแล้ว บุคคลเหล่านี้ยังได้รับการนิรโทษกรรมที่ดินอีก ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แบบนี้ ทั้งที่บุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ได้ล้างมลทินจากการกระทำผิดไปแล้วตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ในปี พ.ศ. 2550 จึงไม่จำเป็นต้องออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผู้ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่าซ้ำอีก

พ.อ.(พิเศษ) พงษ์เพชร เกษสุภะ ยังแสดงความเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้ง 2 ร่าง ขัดหรือแย้งกับ รัฐธรรมนูญ 60 หมวด 4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย มาตรา 50 บุคคลมีหน้าที่ดังต่อไปนี้ (2) ป้องกัน พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แต่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้ง 2 ฉบับ นอกจากเนื้อหาจะไม่พิทักษ์รักษาป่าซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ยังนิรโทษกรรมที่ดินของรัฐที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดี โดยบางพื้นที่ได้ฟื้นฟูเป็นสภาพป่าธรรมชาติไปแล้ว ให้ผู้ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่ากลับมาครอบครองที่ดินได้ใหม่ย้อนหลังไปได้อีกหลายสิบปี (3) ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ 2 ฉบับ

นอกจากเนื้อหาจะไม่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้วยังเป็นการส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปกระทำผิดกฎหมายป่าไม้อีก เพราะสามารถบุกรุกป่าใหม่ได้จนถึงปัจจุบัน จนกว่าจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ มาบังคับใช้ (8) ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์ และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ ร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ร่าง นอกจากจะไม่ช่วยให้ประชาชนร่วมมืออนุรักษ์ คุ้มครองทรัพยากรป่าไม้แล้ว ยังส่งเสริมให้ร่วมมือกันทำลายป่า พื้นที่ป่าที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้ว แม้ผู้กระทำผิดจะเสียชีวิตไปนานแล้ว ก็ยังสืบสิทธิ์มาถึงทายาทให้ครอบครองได้อีก

หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 53 รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ร่าง พรบ. ดังกล่าวทั้ง 2 ร่างมีเนื้อหาให้รัฐส่งเสริมให้บุคคลไม่เคารพกฎหมาย ส่งเสริมให้บุคคลบุกรุกป่าโดยไม่ผิดกฎหมาย ส่งเสริมไม่ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในการป้องกันและรักษาพื้นที่ป่า ที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีมาเพื่อฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติ แต่กลับนิรโทษกรรมให้ผู้กระทำผิดเข้ามาทำประโยชน์ในพื้นที่ได้อีก ดังนั้น การที่ สส. 42 คนได้เสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว อาจมีความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมฯ พ.ศ. 2561 ซึ่งใช้บังคับกับ สส. ด้วย ตามหมวด 3 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ข้อ 6 ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย มูลค่าแห่งอาณาเขต และเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิ เกียรติภูมิ และผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน การที่ สส. เสนอร่าง พ.ร.บ. เป็นการไม่พิทักษ์รักษาพื้นที่ป่า ซึ่งช่วยในระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่ดีอันเป็นผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงของรัฐ หมวด 3 จริยธรรมทั่วไป

ข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม แต่การที่ สส. เสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้อย่างเคร่งครัด พื้นที่ป่าที่ตรวจยึดดำเนินคดีได้ต้องนำมาฟื้นฟูป่าเท่านั้น แต่กลับเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บุคคลและที่ดิน ให้นำพื้นที่ป่าที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดีคืนกลับมาให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่ากลับเข้ามาทำประโยชน์และทำลายป่าเหมือนเดิม แทนที่จะนำมาฟื้นฟูคืนสภาพป่า ตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของชาติในด้านสิ่งแวดล้อม หากมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น สิ่งแวดล้อมก็ดีขึ้น ก็จะเกิดความผาสุกของประชาชนโดยรวม สร้างความมั่นคงให้กับชาติต่อไป

จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายข้างต้น ผมจะทำหนังสือนำเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีเนื้อหาขัดหรือแย้งกับ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 หรือไม่ อย่างไร นอกจากนี้ จะจัดทำหนังสือเสนอต่อ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว. สายอนุรักษ์ป่าไม้ เพื่อขอให้รวมสมาชิก สว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกที่เหลืออยู่ ให้เสนอความเห็นผ่านทางประธานวุฒิสภา เพื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ. อีกทางหนึ่ง และจะทำหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อวินิจฉัยชี้มูลความผิดในกรณี สส. จำนวน 42 คน เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่ามีเจตนาซ่อนเร้นเอาที่ดินของรัฐที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดี บางพื้นที่ได้ฟื้นฟูเป็นสภาพป่าสมบูรณ์ไปแล้ว ไปให้กับบุคคลหรือทายาทของผู้กระทำผิดกฎหมายบุกรุกป่าอีก โดยให้ย้อนหลังไปหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลทุกระดับชั้นมีการกระทำผิดกฎหมายทำลายป่าธรรมชาติเพื่อจะเอาพื้นที่อย่างมโหฬาร ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะถึงถูกดำเนินคดีในวันนี้ ก็ต้องได้รับนิรโทษกรรมตามร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับดังกล่าวอยู่ดี เมื่อมีการประกาศใช้ในอนาคตในเวลาอันใกล้นี้” พ.อ. (พิเศษ) พงษ์เพชร เกษสุภะ อดีตหัวหน้าชุดปฏิบัติการ (ศปป.4 กอ.รมน.) กล่าว

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top