รอบรั้วเมืองใต้ : 25 กันยายน 2568

รอบรั้วเมืองใต้ : 25 กันยายน 2568

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
Tag :

รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม  ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...ปัญหาโลกแตก ของการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาสัปดาห์ก่อน ที่เป็นวันชาติ ของประเทศมาเลเซีย มีนักท่องเที่ยว จากมาเลเซีย ที่เข้ามาในจังหวัดสงขลา รวมทั้งผ่านไปยังจังหวัดอื่นๆ จำนวนหลายหมื่นคน ปรากฎว่าการทำพิธีผ่านการเข้าเมือง ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นักท่องเที่ยวที่ขับรถ มาเอง ต้องใช้เวลาในการผ่านด่านตรวจ 2-3 ชั่วโมง ทำให้เกิดเสียงโวยวายขึ้นจากนักท่องเที่ยว ที่มีความรู้สึก ว่าไม่ได้รับความสะดวก ในการเข้าเมือง เรื่องนี้ ดร.สิทธิพงศ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ขอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้าเมือง ทั้ง ตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร แก้ไขข้อบกพร่อง เป็นการด่วน เพราะอาจจะทำให้นักท่องเที่ยว ที่เป็นชาวมาเลเซีย ทิ้งประเทศไทยไป ท่องเที่ยว ยังประเทศอื่น..... ที่สำคัญ แม้แต่ที่จอดรถบัสที่เดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็ไม่เพียงพอ มีการจอดรถ แบบที่ระเกะระกะ ไปทั้งเมือง ..... เรื่องนี้แม้จะไม่เกิดขึ้นทุกวัน เกิดขึ้นในเทศกาล ที่เป็นวันสำคัญ หรือวันหยุดราชการ แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหาดใหญ่-สงขลา ยังต้องการเม็ดเงิน จากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย จึงเป็นเรื่องที่ โชตินรินทร์ เกิดสม  ผวจ.สงขลา, ณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ และ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต้องสุมหัว เพื่อหาทางออก.....มี ประชาชน ชาวอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ร้องเรียนมาพร้อมกับเขียนแผนผัง ของบ่อนการพนันบ่อนใหญ่ ที่ตั้งอยู่หลังศูนย์ราชการ ของอำเภอนาทวี จ.สงขลา มีเชื่อเซียนพนัน ให้ความเชื่อถือ ว่าเล่นบ่อนนี้ แล้วปลอดภัย เพราะมีหุ้นส่วน เป็นนายตำรวจที่มียศสามดาวมงกุฎครอบ ก็ฝากให้ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาคนใหม่ ส่งสายสืบไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริงด้วย  แถมบ่อนในเขต อ.เมืองสงขลา ยังมีบ่อนไพ่ป๊อกเด้งเปิดที่เมืองสงขลา ซอยโชคอารี หน้าโรงเรียนเทศบาล 1 และบ่อนที่เคหะชุมชน ก็เปิดท้าทายฝีมือผู้การสงขลาด้วย .....เรื่องของไฟใต้ ซึ่งวงใน มีการเม้าท์มอยสให้ฟังว่าการที่ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ โยกย้าย พล.ต.นรธิป โพยนอก จากรองแม่ทัพภาคที่ 2 มาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แบบเสือข้ามห้วย นอกจากความเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ที่ต้องให้ได้เป็น แม่ทัพภาค ก่อนการเกษียณอายุราชการ แล้ว ผบ.ทบ. ยังมีความต้องการ ที่จะล้างบาง และล้างภาพ ของอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อย่างน้อย 3 คน ที่หลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ยังมีบารมี และอิทธิพล ในกองทัพภาคที่ 4 ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง กับการแต่งตั้งโยกย้าย แม่ทัพภาคที่ 4 เพราะมีผลประโยชน์ที่ฝังแน่น อยู่ในกองทัพภาคที่ 4 และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพราะแม่ทัพภาค 4 ทุกคน ผ่านการโอบอุ้ม และเติบโต จากการสนับสนุน ของ อดีตแม่ทัพเหล่านั้น เป็นสาเหตุ ที่พบว่าทำให้การดับไฟใต้ ไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ และไม่ประสพความสำเร็จ....การส่งเสือข้ามห้วย หรือคนนอกกองทัพภาคที่ 4 เข้ามาเป็นแม่ทัพ เพื่อนำทัพ ในการดับไฟใต้ ครั้งนี้ จึงขอให้บริหารคนนอก ที่เป็น เสือข้ามห้วย เพื่อร่วมมือ กับ หน่วยรบพิเศษ ที่แม้จะมีภารกิจ ในพื้นที่ของสามจังหวัด แต่ก็เปล่งประกายไม่ได้ เพราะต้องอยู่ภายใต้การเห็นชอบ ในแผนงาน จาก แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ต้องติดตาม กันต่อไปว่า 1 ปี ของ พล.ต.นรธิป โพยนอก ที่ถูกให้มาวางระบบของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อให้นายทหารรบพิเศษ ได้รับไม้ต่อ ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ในปี 2569 เป็นจริงตามนั้นหรือไม่ เพราะเป้าหมาย ของ กองทัพ คือปี 2570 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีความสงบ มีการถอนทหาร และคืนพื้นที่ ให้กับ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ทำหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย แทนกำลังของทหาร ก็ต้องติดตามแบบเกาะติด ว่านี้เป็นความจริง หรือการนอนฝันกลางวัน ของกองทัพ....เพราะล่าสุด ข่าวจากวงในของบีอาร์เอ็น ที่รับทราบมาคือ  ในรอบ 3 เดือน นับจาก ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป แกนนำ ของบีอาร์เอ็น มีการสั่งการ ให้กองกำลังติดอาวุธ ในพื้นที่ของสามจังหวัด และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลาปฎิบัติการในพื้นที่ดังนี้  1.ก่อการร้ายทำลายสาธารณประโยชน์ 2.ก่อการร้ายทำลายเป้าหมายที่เป็นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 3. ทำลายสัญญาลักษณ์ที่เป็นศูนย์อำนาจทางราชการ และ  4. ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีต่ออำนาจรัฐ ส่วนการทำลายเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และ กองกำลังท้องถิ่น  เป็นภารกิจ ที่เป็นปกติ ที่ไม่ต้องสั่งการ  ถ้าเป้าหมายชัด โอกาสมี ทางหนีพร้อม ปฏิบัติการได้ทุกพื้นที่....และข่าวจากวงใน อีกเรื่องคือเบื้องหลัง การวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ที่เป็นของสถาบันการเงินของรัฐ นั้นคือธนาคาเกษตรและสหกรณ์,ธนาคารอิสลาม และธนาคารออมสิน 9 แห่ง ในพื้นที่  ปัตตานี,ยะลา และนราธิวาส มาจากการที่บีอาร์เอ็น ขอสนับสนุนเงินเพื่อขบวนการ จำนวน 1 ล้าน จากเจ้าของกิจการ ในพื้นที่ เพื่อใช้ในการฝึกครูฝึกอาร์เคเค จำนวน 50 คน แต่มีการโอเอ้วิหารราย ดังนั้น แกนนำ จึงได้สั่งการให้วางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ทั้ง 9 แห่ง เพื่อนำเงิน ในตู้เอทีเอ็ม เป็นของบีอาร์เอ็น เป็นการบอกว่ายังมีวิธีการหาเงิน ที่ ง่ายๆ หาก ไม่ได้รับการสนับสนุน จาก กลุ่มทุน ในพื้นที่....เรื่องวงใน อย่างนี้เชื่อเถอะ ไม่มีรายงาน ในงานการข่าว ในการส่งให้ส่วนกลาง ถึงรู้ก็ปกปิด และ ทั้งหมดคือเรื่องแรกๆ ที่ พล.ต.นราธิป โพยนอก แม่ทัพภาค 4 คนใหม่ ควรที่จะรู้

 ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์


โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top